เด็กท่าน King_J อย่างเด็ด

เอ็มวีนี้ สาดิสไหมครับ อิอิ

โรม่าโอเคจ่าย 11.5 ล้านดึง'เดสโตร'ใช้งาน

โรม่าโอเคจ่าย 11.5 ล้านดึง'เดสโตร'ใช้งาน 
โรม่าได้กองหน้าตัวใหม่มาเสริมขุมกำลังเป็นที่เรียบร้อยหลังตกลงจ่ายเงิน 11.5 ล้านยูโรให้กับเจนัวเพื่อขอยืมมัตเตีย เดสโตรมาใช้บริการล่าตาข่ายพร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดในซัมเมอร์หน้าที่ราคา 4.5 ล้านยูโร 

นอกจากนั้น"รอสโซ่บลู"ยังได้รับกรรมสิทธิ์ 50% ในตัวของดาวรุ่ง"จัลโลรอสซี่"อย่างเจียมมาริโอ ปิสซิเตลล่าและเวเลิโอ เวอร์เร่ที่คิดมูลค่าเป็นเงิน 3 ล้านยูโร 

เดสโตรใช้เวลาในฤดูกาลก่อนไปกับการเล่นบบยืมตัวที่เซียน่าซึ่งได้เข้ามาแชร์กรรมสิทธิ์ในตัวเขากับเจนัว อย่างไรก็ตามทั้งสองสโมสรได้ตกลงใจที่จะขายหัวหอกทีมชาติอิตาลีไปให้กับ"หมาป่าแห่งกรุงโรม"และเป็นที่เชื่อกันว่าเมื่อได้ย้ายทีมอย่างถาวรแล้วแข้งวัย 21 ปีจะได้ประจำการในถิ่นสาดิโอ โอลิมปิโก้ไปจนถึงปี 2017 

เดสโตรที่กระทุ้งไป 12 ประตูจาก 30 เกมที่ลงสนามในเซเรีย อาให้กับเซียน่าจะเข้ามาอุดช่องว่างของฟาบิโอ บอรินี่ที่ชิ่งโรม่าไปอยู่กับลิเวอร์พูลในช่วงก่อนหน้านี้ 

แฟนเฮลั่น!นิวคุย"เดอบูชี่"ผ่านฉลุยรอปิดดีล 48 ชม.

แฟนเฮลั่น!นิวคุย"เดอบูชี่"ผ่านฉลุยรอปิดดีล 48 ชม. 

"สาลิกาดง"นิวคาสเซิลประสบความสำเร็จในการเจรจาค่าตัวและสัญญาส่วนตัวของมาติเยอ เดอบูชี่แบ็คขวาทีมชาติฝรั่งเศสของ"ตราหมา"ลีลล์เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยรอปิดดีลอย่างเป็นทางการในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า 

อีฟนิ่ง โครนิเคิล สื่อแดนผู้ดีรายงานข่าวว่ายอดทีมแดนอีสานสามารถตกลงค่าตัวและรายะละเอียดส่วนตัวของดาวเตะวัย 27 ปีได้แล้ว 

ทั้งนี้นิวคาสเซิลหวังว่าพวกเขาจะสามารถจัดการรายละเอียดที่เหลือกับลีลล์ได้ภายในวันพรุ่งนี้และคาดว่าดีลดังกล่าวน่าจะลุล่วงก่อนช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึง 

นิวคาสเซิลตกเป็นข่าวพัวพันกับเดอบูชี่มาตลอดช่วงซัมเมอร์หลังจากแดนนี่ ซิมพ์สันแบ็คขวาของทีมปฏิเสธที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่ซึ่งจะหมดลงในช่วงสิ้นฤดูกาลใหม่นี้ 

สำหรับเดอบูชี่ถือเป็นผลิตผลจากทีมเยาวชนของลีลล์โดยก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2003 ลงสนามในลีกเอิงไปแล้ว 218 นัดทำได้ทั้งสิ้น 15 ประตูด้วยกัน 

บ้าพลัง!สิงห์ล็อคเป้าทุ่ม 47 ลป.กระชากอีกสามแข้ง

บ้าพลัง!สิงห์ล็อคเป้าทุ่ม 47 ลป.กระชากอีกสามแข้ง 
เสริมทัพกันให้ตายไปข้างเมื่อล่าสุดเชลซีกางแผนทุ่มเงินอีก 47 ล้านปอนด์คว้าผู้เล่นอีก 3 คนเข้ามาเสริมทัพในระลอกสองตามการรายงานของ Daily Express 

จนถึงตอนนี้"สิงห์บลูส์"ใช้เงินไปเกือบ 65 ล้านปอนด์แล้วสำหรับการดึงเอด็อง-ธอร์แกน อาซาร์, มาร์โก มารินและออสการ์เข้ามาเสริมขุมกำลัง 

แต่เชซียังไม่สาแก่ใจเลยเตรียมอัดฉีดเงินอีก 47 ล้านปอดน์เข้าสู่ตลาดนักเตะเพื่อลุ้นเช็คบิลเอดินสัน คาวานี่กองหน้าตัวโหดของนาโปลีในราคา 32 ล้านปอนด์, วิคเตอร์ โมเสสหัวหอกของวีแกนในราคา 7 ล้านปอนด์และแบ็กขวาแห่งโอลิมปิก มาร์กเซยอย่างเซซารื อัซปิลิกวยต้าสนนราคาที่ 8 ล้านปอนด์ 

ไร้คู่แข่ง!ป๋ามั่นเช็คบิล RVP 20 ลป.

ไร้คู่แข่ง!ป๋ามั่นเช็คบิล RVP 20 ลป. 

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนายใหญ่โบราณวัตถุของ"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสุดมั่นว่าพวกเขาจะสามารถคว้าตัวโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ดาวยิงกัปตันทีม"ปืนใหญ่"อาร์เซน่อลมาร่วมทีมได้ที่สนนราคา 20 ล้านปอนด์ 

เดลี สตาร์ สื่อชื่อดังแดนผู้ดีรายงานข่าวว่าข้อเสนออย่างเป็นทางการ 20 ล้านปอนด์น่าจะเพียงพอต่อการคว้าตัวฟาน เพอร์ซี่มาร่วมถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

ขณะที่คู่แข่งแย่งตัวดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์รายอื่นๆอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และยูเวนเตสต่างถอนตัวเลิกให้ความสนใจในตัวเขาไปแล้ว 

เฟอร์กูสันมั่นใจกว่าที่ผ่านๆมาว่าเขาจะได้ตัวดาวยิงดัตช์แมนมาร่วมทัพหลังจากอดทนรอให้ดีลดังกล่าวลุล่วงไปได้ด้วยดีในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ทั้งนี้บรมกุนซือวัย 70 ปีซึ่งคว้านักเตะมาร่วมทีมแล้ว 2 รายประกอบด้วยชินจิ คากาวะและนิค พาวเวลล์ก็ให้คำมั่นว่าเขาจะดึงแข้งหน้าใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกรงเพิ่มเติมอีก 

ตามรายงานข่าวระบุว่าเฟอร์กูสันแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นฟาน เพอร์ซี่ในสีเสื้อของยูไนเต็ดเพื่อช่วยทีมไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ ลีกคืนมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

นิวอย่าตืด!หงส์หักคอ'แครอท'ส่งขุนค้อน 19 ลป.

นิวอย่าตืด!หงส์หักคอ'แครอท'ส่งขุนค้อน 19 ลป. 

ลิเวอร์พูลเตรียมผลักดันแอนดี้ แคร์โรลล์หัวหอกอีแพงออกไปให้กับเวสต์แฮมด้วยสัญญายืมตัวพร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดที่รวมกันแล้วคิดเป็นมูลค่า 19 ล้านปอนด์ งานนี้หากนิวคาสเซิ่ลมัวลังเลอาจชวดนำเด็กเก่ากลับบ้านแน่ 
เป็นที่เชื่อกันว่า"หงส์แดง"พอใจในข้อเสนอของ"ขุนค้อน"ที่ขอจ่ายเงิน 2 ล้านปอนด์เป็นค่ายืมตัวแคร์โรลล์พร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดในราคา 17 ล้านปอนด์เมื่อทีมรอดตกชั้นหลังจบฤดูกาล อย่างไรก็ดีกองหน้าร่างยักษ์ปรารถนาที่จะย้ายกลับไปร่วมทัพ"สาลิกาดง"มากกว่าหากเขาถูบบีบให้ออกจากถิ่นแอนฟิลด์ 

ก่อนหน้านี้นิวคาสเซิ่ลเคยยื่นข้อเสนอสำหรับดาวยิงทีมชาติอังกฤษมาให้"หงส์แดง"พิจารณาเช่นกันโดยขอยืมตัวพร้อมมีอ็อปชั่นซื้อขาดในราคา 13 ล้านปอนด์ทว่ายอดทีมเมอร์ซี่ไซด์ได้ปฏิเสธไเพราะต้องการเงินในจำนวนที่ใกล้เคียงกับ 20 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่พวกเขาทุ่มเงิน 35 ล้านปอนด์ซื้อมาเมื่อต้นปี 2011 

แม้เบรนแดน ร็อดเจอร์สเทรนเนอร์ของ"หงส์แดง"ยืนยันว่าแคร์โรลล์ยังเป็นผู้เล่นของสโมสรและเขาไม่ได้หาทางเพื่อกำจัดนักเตะออกจากขุมกำลังแต่อย่างใด แต่ใครก็ทราบดีว่าประตูย้ายทีมของ"อีแพง"ยังเปิดกว้างอยู่เสมอเพื่อให้สโมสรได้มีเงินทุนไปปิดดีลคว้าโจ อัลเลนจากสวอนซีและคลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์จากฟูแล่มนั่นเอง 

ซ้อมเกมรุก!เรือรัวยิงก่อนไข่แตกท้ายเกมซิว 3-1

ซ้อมเกมรุก!เรือรัวยิงก่อนไข่แตกท้ายเกมซิว 3-1 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้แอบโหดนิดหน่อย ส่งบรรดาสตาร์ลงเล่นก่อนที่จะไล่นวดมาเลเซียด้วยการซัด 3 ประตูรวด สุดท้ายมาเสียประตูตีไข่แตกตอนที่ผ่อนเกมลงไปแล้ว ทำให้พวกเขาเอาชนะไปแบบชิลๆ 3-1 สมราคาแชมป์พรีเมียร์ ลีก 

เกมอุ่นเครื่อง 

ออลสตาร์ มาเลเซีย 1 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประตู :0-1 อเกวโร่ น.17, 0-2 เตเบซ น.48, 0-3 จอห์นสัน น.52, 1-3 มุห์ด อาคีล น.87 

คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรสโมสร มาเลเซีย XI 1-3 แมนซิตี้ 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่มีการปราณีใดๆ จัดการขนผู้เล่นระดับสตาร์ลงอุ่นเครื่องกับมาเลเซียแบบคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นเตเบซ, อเกวโร่, ยาย่า รวมทั้งจอห์นสันที่ได้รับโอกาสลงเล่นในเกมนี้ด้วย 

ครึ่งแรก 

นาทีที่ 7 จริงๆแล้วจังหวะนี้ต้องใส่สกอร์ไปเลย เพราะแมนฯซิตี้มีโอกาสพาบอลลุยยาวเข้าไปถึงเขตโทษ ล็อคบอลหลบผู้รักษาประตูจนไปเข้าทางของยาย่าที่ยิงเน้นๆแล้ว แต่บอลกลับเหินเกินจนไปชนคานเข้าอย่างจังซะนี่

นาทีที่ 15 ประตูแรกยังไม่มาสำหรับแมนฯซิตี้ แต่คราวนี้นายด่านของมาเลเซียก็ต้องออกแรงเซฟเต็มตัวกับจังหวะที่อเกวโร่แตะบอลกระชากหนีกองหลัง แม้ว่าจะเสียหลักไปหน่อย แต่เขาก็ยังยิงแบบดีดๆบังคับให้บอลพุ่งเข้ากรอบได้ แต่สุดท้ายก็ตัดเซฟเหมือนเดิม

แต่แล้วอีก 2 นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่โชว์ให้เห็นเลยว่าระดับโลกเขาเล่นกันยังไง เมื่ออเกวโร่ได้บอลนอกเขตโทษ ก่อนจะยึกไปมา แล้วแตะหนีกองหลัง ก่อนจะกระชากพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษสลัดอีกหนึ่งตัว แล้วจัดการจิ้มบอลข้ามตัวผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสวยงาม แมนฯซิตี้นำ 1-0

นาทีที่ 22 พลาดโอกาสนี้ไปไม่รู้ว่าจะทำให้มันชินี่ไม่ปลื้มต่อเนื่องหรือเปล่าสำหรับจอห์นสัน เพราะเขาอุตส่าห์ได้ยืนตั้งป้อมยิงในกรอบเขตโทษแล้ว แต่เหมือนว่าจะเร่งรีบบวกฝืนไปหน่อย เลยกลายเป็นงัดใต้บอลหวดโด่งข้ามคานออกไปไกลลิบลับ
นาทีที่ 31 แม้ว่าเกมจะเป็นฝั่ง "เรือใบ" ที่บุกสนุกสนานอยู่ฝั่งเดียว แต่เตเบซก็คุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ หลังจากไปเสียฟาวล์ฝั่งคู่แข่งซึ่งเขาไม่เห็นด้วย จนทำให้หลุดไปเอาคืนนักตเะมาเลฯในจังหวะต่อมา ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาควักใบเหลืองให้ทันที

ช่วงเวลาที่เหลือก็มีจังหวะของเตเบซและอเกวโร่ที่ป้วนเปี้ยนไปมาอยู่แถวๆกรอบเขตโทษของมาเลเซีย แต่ก็ยังบวกประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งหลังสกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0 ต้องดูว่าจะมีขยับไหลหรือไล่ตามขึ้นมาบ้างไหมในครึ่งหลัง 

ครึ่งหลัง 

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 2 นาทีเศษๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็นำห่างรวดเร็วจากฝีตีนของเตเบซที่ครึ่งแรกพยายามนาดูแต่ทำไม่ได้ สุดท้ายมาวิ่งหลุดทะลุช่องจากลูกจ่ายของเพื่อน ก่อนจะเข้าไปแปสวนตัวของนายด่านมาเลฯกลิ้งกุรุกๆไปนอนจมก้นตาข่าย แมนฯซิตี้ทิ้ง 2-0

นาทีที่ 52 สวยงามจริงเชียวสำหรับประตูที่ 3 ของแมนฯซิตี้ ต้องชมตั้งแต่ลูกจ่ายของอเกวโร่ที่งัดบอลโด่งข้ามกองหลังไปให้กับจอห์นสันหลุดเข้าไปเอาบอลลงแล้วตวัดยิงหลอกไปที่เสาแรก ผู้รักษาประตูได้แต่หงายเงิบก้นจ้ำเบ้าเท่านั้นเอง

เกมเข้าสู่ช่วง 25 นาทีสุดท้าย ก็ยังเล่นกันไปเรื่อยๆ แมนฯซิตี้อาจจะดูผ่อนเกมลงไปบ้าง เพราะยังไงก็สกอร์ห่างสมใจแฟนที่เชียร์ไปแล้ว ที่เหลือก็ระวังไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาเท่านั้นก็พอ

แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่เกมอุ่นเครื่อง แต่มันชินี่ก็เอาจริงเอาจังสั่งการลูกทีมอยู่ตลอด มีช๊อตปะทะอารมณ์เล็กๆกับทางยาย่าในตอนที่เปลี่ยนมิดฟิลด์หัวใจหลักของเกมออกมาพักที่ข้างสนามให้เห็นอีกด้วย

นาทีที่ 87 ในที่สุดมาเลเซียก็ได้ประตูปลอบขวัญแฟนบอล เมื่อผู้เล่นเบอร์ 13 ได้บอลก่อนจะกระชากหนีซาบาเลต้าที่พยายามวิ่งตามแต่ล้มหน้าคว่ำลงไปยิงผ่านผู้รักษาประตู มาเลเซียตีไข่แตกเป็น 3-1

จบ 90 นาที แมนฯซิตี้อาจจะเซ็งนิดๆที่มาเสียประตูในช่วงท้ายเกม แต่พวกเขาก็เอาชนะมาเลเซียไป 3-1 เป็นฟอร์มเกมรุกที่ดูแล้วถ้าลับกันมากกว่านี้หน่อย คู่แข่งในพรีเมียร์ ลีกมีหนาวแน่ๆ 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

ออลสตาร์ มาเลเซีย : - 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : คอสเทล ปันติลิมง, ปาโบล ซาบาเลต้า, สเตฟาน ซาวิช, โคโล่ ตูเร่, โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, ซัวเรซ, ราแซ็ค, อดัม จอห์นสัน, คาร์ลอส เตเบซ, แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : 

พ่อแม่จ่อ!เดมพ์ซีย์ถอนทัวร์ฟูแล่มปิดดีลหงส์

พ่อแม่จ่อ!เดมพ์ซีย์ถอนทัวร์ฟูแล่มปิดดีลหงส์ 

คลินต์ เดมพ์ซีย์มิดฟิลด์จอมพังประตูใกล้เป็นนักเตะใหม่รายที่สองของลิเวอร์พูลหลังขอถอนตัวจากการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์เพื่อเจรจาปิดดีลซบถิ่นแอนฟิลด์ 
แข้งทีมชาติอเมริกาวัย 29 ปีไม่ได้เดินทางขึ้นเครื่องบินที่ฮีทโธรว์กับเพื่อนร่วมทีมเมื่อเช้าวันจันทร์หลังเอ่ยปากกับมาร์ติน โยลกุนซือว่าไม่อยากมีส่วนร่วมและต้องการเจรจาเพื่อยุติอนาคตและย้ายไป"หงส์แดง" 

สื่อผู้ดีเผยว่าทั้งนักเตะและโยลมีปากเสียงกันที่สนามซ้อมโดยที่อดีตบอสสเปอร์สอึดอัดที่จะยอมรับคำเรียกร้องจากเดมพ์ซีย์จนท้ายที่สุดต้องปล่อยเกาะให้อยู่ซ้อมกับดาวรุ่งที่ลอนดอนและเพื่อนร่วมทีมบินไปสวิสกันในที่สุด 

ฟูแล่มจะใข้เวลาทั้งสัปดาห์เก็บตัวที่สวิสเพื่อลงอุ่นเครื่องกับนีซทีมจากฝรั่งเศสในวันเสาร์ก่อนเดินทางกลับอังกฤษทันที 

เบรนแดนน รอดเจอร์สอยากได้ศักยภาพการทำประตูของเดมพ์ซีย์มาช่วยแก้ปัญหาปืนฝืดและเชื่อว่าจะเข้ามาเติมเต็มระบบพาส แอนด์ มูฟร่วมกับหลุยส์ ซัวเรซและฟาบิโอ บอรินี่ได้อย่างแน่นอน 

เดมพ์ซีย์ซึ่งยิง 17 ประตูในลีกเมื่อซีซั่นก่อนปฏิเสธสัญญาใหม่ 3 ปีที่"เจ้าสัวน้อย"ยื่นมาให้และแจงเหตุผลว่าอยากย้ายไปเล่นกับทีมใหญ่ในช่วงโอกาสสุดท้ายของชีวิต 

กูว่าแล้ว!วงในราชันโต้บอกดีล'โมดริช'ไม่ได้ใกล้เคียงเลย

กูว่าแล้ว!วงในราชันโต้บอกดีล'โมดริช'ไม่ได้ใกล้เคียงเลย 

แหล่งข่าววงในของสโมสร"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริดยืนยันว่าดีลการคว้าตัวลูก้า โมดริชมิดฟิดล์คนเก่งของ"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ไม่ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงตามที่สื่อรายงานกันแต่อย่างใด 

เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวแพร่สะพัดว่ามาดริดสามารถตกลงค่าตัวของเพลย์เมกเกอร์วัย 26 ปีกับสเปอร์สได้แล้วที่สนนราคา 36 ล้านปอนด์ 

อย่างไรก็ตามล่าสุด อาส สื่อชื่อดังแดนกระทิงดุรายงานอ้างแหล่งข่าววงในของมาดริดระบุว่าทั้งสองสโมสรยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆกันได้ทั้งนั้น 

ไม่เพียงเท่านั้นแหล่งข่าวยังบอกอีกด้วยว่าในความเป็นจริง ทีมแชมป์ลา ลีกาคิดว่าข้อตกลงดังกล่าวยังคงต้องเจรจากันอีกยาวไกลเลยทีเดียว 

ทั้งนี้ดาวเตะทีมชาติโครเอเชียย้ายจากดินาโม ซาเกร็บมาร่วมถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลนตั้งแต่ปี 2008 ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์โดยลงสนามในพรีเมียร์ ลีกไปแล้ว 127 นัดทำได้ 13 ประตูกับอีก 21 แอสซิสต์ด้วยกัน 

โลกอยู่ยาก!เอฟเอเล่นปากเป็ดทวิตเหยียดโคลคล้ำ

โลกอยู่ยาก!เอฟเอเล่นปากเป็ดทวิตเหยียดโคลคล้ำ 
ริโอ เฟอร์ดินานด์กองหลังปากเป็ดแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเดือดร้อนแล้วหลังถูกเอฟเอตั้งข้อหาจากคอมเมนท์เหยียดผิวแอชลีย์ โคลในทวีตเตอร์จากประเด็นขึ้นศาลของจอห์น เทอร์รี่ 

ทันทีที่"เจที"รอดคดีเหยียดผิวแอนทอน เฟอร์ดินานด์น้องชาติจากเหตุการณ์ที่เชลซีพบควีนส์ พาร์คเรนเจอร์เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนโดยโคลให้การสนับสนุนเพื่อนรักทำให้ทางฝั่ง"ปากเป็ด"ทวีตแขวะ"โคลคล้ำ"ว่าเป็นพวกหลงฝูงวัวลืมตัวโดยมีข้อความเจ็บแสบว่า 

"ข้างนอกดำปึ๊ดแต่ข้างในนี้ขาวจั๊วะ" 

อย่างไรก็ตามคอมเมนท์นี้ไม่รอดพ้นสายตาสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่ตั้งข้อหาเล่นงานทันที 

"เอฟเอขอตั้งข้อหาริโอ เฟอร์ดินานด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับความประพฤติที่ไม่เหมาะสมต่อคอมเมนท์บนทวิตเตอร์"เอฟเอแถลง 

"ข้อหานี้มาจากความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของนักเตะหรือทำให้เกมฟุตบอลนำมาซึ่งความเสื่อมเสียจากคอมเมนท์เหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับสีผิวและเชื้อชาติ" 

"ปากเป็ด"มีเวลาจนถึง 4 โมงเย็นของวันพฤหัส(สี่ทุ่มบ้านเรา) เพื่อตอบรับข้อกล่าวหานี้ไม่ว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับก็ตาม 

เมื่อสัปดาห์ก่อนเทอร์รี่เองก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมจากคอมเมนท์ที่มีต่อแอนทอนซึ่งกองหลังจอมซั่มยืนกรานว่าจะขอสู้จนถึงที่สุด 

ขอเสียงโหน่ย!เกรียนโอ้คัมแบ็คเหยียบแมนเชสเตอร์แล้ว

ขอเสียงโหน่ย!เกรียนโอ้คัมแบ็คเหยียบแมนเชสเตอร์แล้ว 

ระดับเซเล็บกลับมาก็ต้องต้อนรับกันบ้าง เมื่อมาริโอ บาโลเตลลี่หัวหอกจอมเกรียนกลับสู่สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากพักผ่อนมาอย่างช่ำอุรา 

บาโลเตลลี่กลับมายังเกาะอังกฤษอีกครั้ง หลังจัดทริปไปเซ็นต์ โปรเปซและอิบิซ่าระหว่างช่วงพักจากการเสร็จภารกิจช่วยอิตาลีลงเล่นในยูโร 2012 ที่โปแลนด์และยูเครนมา 

บาโลเตลลี่กลับมาในขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นของเขาเดินทางไปทัวร์ยังเอเชียและเพิ่งจะอุ่นเครื่องเอาชนะออลสตาร์ มาเลเซียไป 3-1 จากประตูของแซร์คิโอ้ อเกวโร่, คาร์ลอส เตเบซและอดัม จอห์นสัน 

แข้งวัย 21 ปีจะเข้าซ้อมที่สนามแคร์ริงตันในวันอังคารนี้ทันที เพื่อที่เขาจะเรียกความฟิตและโชว์ฟอร์มเพื่อเอาชนะใจโรแบร์โต้ มันชินี่กุนซือของทีมเพื่อให้เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมกับเซาท์แธมตันที่จะเตะเปิดฤดูกาลในวันที่ 18 สิงหาคมที่สนามเอติฮัด สเตเดี๊ยมให้ได้ หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในเกมยูโร 2012 ที่ผ่านมา 

“ผมคิดว่าเขาทำผลงานในยูโรได้ดีเลยนะ” มันชินี่กล่าว 

“ผมยังหวังว่าฟอร์มพวกนั้นจะทำให้เขาพัฒนาขึ้นมาได้ดี ผผมคิดว่าทุกครั้งที่เขาเล่นได้ดี เหมือนอย่างในยูโร มันจะเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนั่นช่วยเรื่องความประพฤติของเขาได้” 

“จากนั้นมันจะทำให้เขาเข้าใจได้เลยว่า ถ้าเขาดูแลความประพฤติของตัวเองให้ดี เขาก็จะทำผลงานได้ดีขึ้นนั่นเอง” 

เด็กท่านเจ

เนย์มาร์สุดตีน!ฟรีคิกงามหยดแซมบ้าพลิกเฮ 3-1 ลิ่ว 8 ทีม

เนย์มาร์สุดตีน!ฟรีคิกงามหยดแซมบ้าพลิกเฮ 3-1 ลิ่ว 8 ทีม 

เป็นแมตช์ที่หล่อไปเลยสำหรับเนย์มาร์ที่นอกจากจะโชว์สเต็ปลากเลื้อย พร้อมจ่ายให้เพื่อนยิง ก็ยังเป็นคนพังประตูจากลูกฟรีคิกที่ดูแล้วพูดได้คำเดียวว่าสุดตีน ช่วยให้บราซิลซึ่งโดนนำก่อนพลิกกลับมาเอาชนะ 3-1 เก็บ 6 คะแนนเต็มเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายชัวร์แล้ว 
โอลิมปิค 2012 ฟุตบอลชาย กลุ่มซี 

บราซิล 3 - 1 เบลารุส

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู :0-1 เบรสซาน น.8, 1-1 ปาโต้ น.15, 2-1 เนย์มาร์ น.65, 3-1 ออสการ์ น.90+3 

คลิปไฮไลท์ โอลิมปิก 2012 บราซิล 3-1 เบรารุส 

หลังจากเก็บ 3 คะแนนเต็มมาได้ในนัดที่แล้ว วันนี้บราซิลก็จัดเต็มส่งทั้งฮัลค์, ปาโต้, เนย์มาร์และออสการ์ลงเล่นแบบพร้อมศัพท์ เกมรุกไม่ต้องพูดถึงมีประตูให้ได้เห็นกันอย่างแน่นอนในเกมนี้ 

ครึ่งแรก 

หยั่งกับจุดโทษ!เบลารุสได้โหม่งเต็มเหน่ง 
นาทีที่ 8 บราซิลถึงกับช็อกตาตั้ง เพราะพวกเขากำลังเซ็ตเกมตามสไตล์ตัวเองอยู่ดีๆ กลับมาโดนทำประตูขึ้นนำไปก่อน ซึ่งก็มาจากความผิดพลาดของตัวเองล้วนๆ ที่ปล่อยให้เบลารุสได้โยนบอลจากด้านข้าง แล้วไม่มีคนตามเบรสซานที่ค่อยๆเข้ามาโหม่งบอลแบบเน้นๆ ผ่านมือของเนโต้เข้าประตูไป เบลารุสนำไปก่อน 1-0 





































ยอมได้ที่ไหน!เนย์มาร์โยนเมพ-ปาโต้โหม่งเยี่ยม 
นาทีที่ 15 นี่มันผลงานระดับคุณภาพชัดๆเลย สำหรับเนย์มาร์และปาโต้ เมื่อแข้งจอมลีลายึกบอลอยู่ด้านข้าง ก่อนที่จะสบช่องจัดการตักบอลยาวไปเสาสองให้ปาโต้ฉีกหนีกองหลังเข้าไปโหม่งแบบเต็มๆตุงตาข่าย เจ้าตัวสะใจน่าดูเพราะตอนนี้ตีเสมอได้ทันใจ 

แซมบ้ายังครองได้มากกว่า 
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมง เกมนี้ดำเนินไปในรูปแบบที่เหมือนตั้งแต่ต้นเกมคือจะเป็นบราซิลที่เก็บบอลและทำเกมได้เรื่อยๆ เดินเกมรุกกันแบบเต็มที่ โดยเฉพาะฟูลแบ็คสองข้างที่เติมไม่หยุด แต่ก็ยังเจาะเบลารุสเข้าไปทำเหมือนลูกตีเสมอไม่ได้ 

ทำไมไม่จ่าย ... คอร์นิเลนโก้เลี้ยงซะเพลิน 
นาทีที่ 35 จังหวะนี้เป็นใครก็ต้องจ่าย แต่สำหรับคอร์นิเลนโก้กลับไม่ทำอย่างนั้น ทั้งที่เขาอุตส่าห์ล็อกหลอกกองหลังของบราซิลไปจนสุดเส้น มีช่องจ่ายให้เพื่อนที่พร้อมจะยิงให้ตาข่ายกระจุยอยู่เสาสอง แต่เขากลับฝืนที่จะเลี้ยงต่อ เลยโดนสกัดเอาไว้จนได้ 

เนย์มาร์โชว์ได้ใจแฟน 
ดูแล้วนี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดสำหรับเนย์มาร์ก็เป็นได้ เพราะดูแล้วใช้จังหวะไม่มากจนเกินไปและยังมีลูกเล่นโชว์ให้เห็นจากการหมุนตัวไขว้บอลหนีกองหลังจนแฟนต้องปรบมือให้เลย 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่มเติมแต่อย่างใด จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1 บราซิลอาจจะต้องเพิ่มมิติของตัวเองเข้าไปอีกหน่อย หากหวังจะทะลวงเบลารุสให้ได้ในครึ่งหลัง 

ครึ่งหลัง 

ยิงหนักดี!มาร์เซโล่อัดติดเซฟ 
นาทีที่ 52 เท้าหนักใช้ได้เลยสำหรับแบ็คจอมลุยอย่างมาร์เซโล่ที่เติมขึ้นไปตะบันด้วยเท้าซ้ายแบบเต็มๆ บอลพุ่งเหินกำลังดี แต่ก็ไม่ผ่านมือของกูเตอร์ที่บินปัดทิ้งไปได้ 

เกือบงามแล้ว!ออสการ์โดนสกัดนิดเดียว 
อีก 4 นาทีต่อมา ถ้าเข้าไปล่ะก็สวยงามแน่นอนกับจังหวะนี้ที่เนย์มาร์โยนบอลจากริมเส้นข้างยาวไปสุดเสาสอง ปาโต้ขึ้นโหม่งชงกลับมาหวังให้ออสการ์วิ่งมาง้างยิงให้เต็มเหนี่ยว แต่กองหลังพุ่งตัวเข้าไปแหย่เท้าสกัดได้ก่อนแบบหวุดหวิด 








































นี่ก็เกือบงาม!เบรสซานลักไก่ปั่นใส่เสา 
นาทีที่ 61 เป็นอีกจังหวะที่ถ้าเข้าไปแล้วต้องงามหยดน่าดู เมื่อเบรสซานได้บอลนอกกรอบซึ่งระยะค่อนข้างห่าง แต่เห็นเนโต้ยืนสูงกว่าเส้นประตู เลยจัดการลักไก่ปั่นยาวไปเสาสอง บอลดูดเข้าหาเสาประตูเสียบหายแน่ๆ แต่เนโต้ก็วกตัวกลับมาปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน 

นี่มันสุดตีน!เนย์มาร์ซัดฟรีคิกสวยเว่อร์ 
อีก 5 นาทีต่อมา เป็นประตูฟรีคิกที่สวยงามและเพอร์เฟ็คไร้ที่ติเลยจริงๆ เมื่อบราซิลได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ คราวนี้เป็นเนย์มาร์ขอโอกาสและเขาก็ทำได้ยอดเยี่ยม เมื่อปั่นบอลข้ามกำแพง ก่อนที่จะพุ่งโค้งไปเสียบเสาแรก หลอกผู้รักษาประตูได้สนิท บราซิลขึ้นนำ 2-1 

สิงห์ยิ้ม!ออสการ์ยิ่งเล่นยิ่งดี 
บอกได้เลยว่าเชลซีได้เพชรเม็ดงามไปครองโดยแท้ เพราะนอกจากลูกจ่ายของออสการ์ที่เฉียบขาดและหวังผลได้อยู่ตลอดนั้น เขายังมีเทคนิคสไตล์บราซิเลี่ยน แม้ว่าจะโดนรุมอยู่ 2-3 คน แต่ยังหมุนพลิกตัวเอาบอลออกมาได้หน้าตาเฉย ยอดเยี่ยมจริงๆ 

เกมเล่นกันเรื่อยๆ 
ด้วยการที่บราซิลนำอยู่ทำให้พวกเขาเล่นได้ค่อนข้างสบาย แต่เบลารุสค่อนข้างจะมีปัญหาในเรื่องการพยายามทำเกมรุกขึ้นไปทวงประตูตีเสมอคืนให้ได้ ถ้าเล่นแบบนี้เรื่อยๆคงเสร็จแข้งแซมบ้ายังแน่นอน 

เทคนิคเยี่ยม!เนย์มาร์ลากผ่าน 3 ตัว 
นาทีที่ 79 ยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับเทคนิคของเขาคนนี้ เมื่อเนย์มาร์ได้บอลทางด้านข้าง ก่อนที่จะสปีดกระชากพาบอลหนีตัวประกบไป ก่อนที่จะแตะผ่านไปได้อีกสองคน แต่ก็ต้องล้มคว่ำในเขตโทษ เพราะโดนเข้าสกัดแบบหนักแน่นสุดๆจนเล่นเอาเจ็บไปเหมือนกัน 

สุดยอดไปเลย!เนย์มาร์จ่าย-ออสการ์สังหาร 
ช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ต้องยกให้เขาจริงๆเลยสำหรับเนย์มาร์ในเกมนี้ที่ เพราะเขามาจัดการโชว์ลากเลื้อย ก่อนที่จะตอกส้นต่อให้กับออสการ์วิ่งเข้าไปจบสกอร์แบบเน้นๆ จบเกมบราซิลเอาชนะไปด้วยฟอร์มที่หมดจด 3-1 เก็บ 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้ารอบต่อไปอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องไปลุ้นในนัดสุดท้ายที่เหลือ 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

บราซิล : เนโต้ 6, ราฟาเอล 6, ธิอาโก้ ซิลวา 6.5, ฮวน เฆซุส 6, ซานโดร 6.5(กานโซ่ 6 น.64), มาร์เซโล่ 6.5, โรมูโล่ 7.5, ออสการ์ 8, เนย์มาร์ 8.5*, ฮัลค์ 6.5(ดานิโล่ 6 น.86), อเล็กซานเดร ปาโต้7(มูร่า 6 น.84) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : กาเบรียล แฟร์เรร่า, อเล็กซ์ ซานโดร, บรูโร่ ยูวินี่, เลอันโดร ดามิเยา 

เบลารุส: อเล็คซานเดอร์ กูเตอร์ 6, เดนิส โพลยาคอฟ 6, อเล็คไซ คอซลอฟ 6(กาฟริโลวิช 5.5 น.80), อีกอร์ คุซเมน็อค 5, เซอร์ไก โพลิเตวิช 6.5, สตานิสลาฟ ดรากัน 6, เซอร์กี้ คอร์นิเลนโก้ 5.5(ซูโบวิช 5.5 น.77), เรนาน เบรสซาน 6.5, อิลยา อเล็คซีวิช 6(โวรอนคอฟ 6 น.70), มิคาอิล กอร์ดิชัค 5.5, ดิมิทรี่ บาก้า 5.5 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : อังเดร เชอร์บาคอฟ, อาร์เท็ม โซโลวี่, มัคซิม สกาวิช, วลาดิเมียร์ คาฟชินสกี้

 

 

 
 
 
 
 
 

สเตอร์ริดจ์ชิพสวย!เจ้าภาพไร้ปัญหาซิวยูเออี 3-1

สเตอร์ริดจ์ชิพสวย!เจ้าภาพไร้ปัญหาซิวยูเออี 3-1 

สหราชอาณาจักรไร้ปัญหาหลังโดนตีเสมอในช่วงครึ่งหลังแต่ก็เร่งเครื่องกลับมาพร้อมกับเดเนียล สเตอร์ริดจ์ชิพสวยๆส่งเป็นประตูปิดท้ายเอาชนะสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ 3-1 ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายที่จะเจอกับอุรุกวัยต่อไป 

ฟุตบอลโอลิมปิค

สนาม : เวมบลีย์

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2555 

สหราชอาณาจักร 3:1 สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์

ประตู : 1-0 กิ๊กส์ น.16, 1-1 อีซ่า น.60, 2-1 ซินแคลร์ น.73, 3-1 สเตอร์ริดจ์ น.76 

คลิปไฮไลท์ โอลิมปิก 2012 สหราชอาณาจักร 3-1 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

เกมนี้สจวร์ต เพียร์ชเปลี่ยนจากเกมแรกพอสมควรโดนให้ไมกาห์มายืนแบ็คขวาส่งทอมกินส์ลงไปเป็นเซ็นเตอร์แทนและเบอร์ทรานด์เป็นสำรอง ด้านกองกลางก็เป็นแรมซี่ย์ลงมา กองหน้าก็ให้สเตอร์ริดจ์นั่งไปก่อนปล่อยซอร์เดลล์ลงตัวจริง 

ครึ่งแรก 

เริ่มเกม GB เกือบเฮไว 
เปิดฉากมาเกือบมีประตูไวจากโอกาสแรกของเกมโดยฝั่งสหราชอาณาจักรที่ได้ลุ้ก่อนเลยจากลูกทุ่มให้ซอร์เดลล์ก่อนจะเปิดต่ำเข้าไปในเขตโทษแต่น่าเสียดายแรมซี่ย์สไลด์มาเข้าชาร์จช้าไปนิดเดียว 

น้าจัดให้!ถีบจักรเปิดกิ๊กส์โขกเต็มหัว 
หลังยูเออีบุกในเสียวอยู่นาน นาที 16 เจ้าภาพก็ได้สิ่งที่ต้องการเรียบร้อยจากจังหวะที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะเลือกออกมาทางซ้ายให้กับเบลลามี่เล็งก่อนนิดนึงจากนั้นก็เปิดลึกไปเสาสองให้กับกิ๊กส์โดดโหม่งบอลตกพื้นสวนทางเข้าเสาไกล สหราชอาณาจักรนำไปแล้ว 1-0 





































ยูเออีมีสวนได้ลุ้น 
บุกเพลินๆทีม GB ก็เจอจังหวะเสียวได้เช่นกันจากคาลีลที่พาบอลขึ้นมาเองเลยทางซ้ายก่อนจะทำเป็นหยุดแล้วลากต่อผ่านด่านริชาร์ดมาได้แล้วก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปแต่บอลก็ยังไม่ดีพอหลุดออกไปอีกฝั่งเลย 

GB เริ่มมา!ซอร์เดลล์ยิงติดเซฟ 
เกมเรื่อยๆเอื่อยๆไปซักพักจนนาที 32 โอกาสของเจ้าภาพมาอีกครั้งเป็นแรมซี่ย์ที่ออกบอลขึ้่นหน้ามาจนถึงซอร์เดลล์แต่งเข้าซ้ายเหมือนจะยิงก่อนล็อกเข้าขวาแล้วสับบอลมีแฉลบนิดแต่ก็ยังโดนคาเซอีฟปัดไปได้ 

ไม่ผ่านซักที!ถีบจักรส่องบ้างก็โดนเซฟ 
โอกาสยังมาเรื่อยๆสำหรับเจ้าภาพคราวนี้เป็นบอลบุกขึ้นมากลางสนามโดยกิ๊กส์ก่อนจะแตะมาให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์จ่ายเข้าเขตโทษทางซ้ายให้กับเบลลามี่ได้ลองส่องด้วยขวาเลยแต่บอลก็ยังคงติดเซฟคาเซอีฟอยู่ 

โชคไม่มี!เคลฟเวอร์ลี่ย์ยิงชนสองเสา 
ท้ายครึ่งแรกก่อนหมดเวลานาทีเดียวสหราชอาณาจักรน่าได้ประตูที่สองแบบสุดๆในจังหวะที่สวนกลับเร็วเคลฟเวอร์ลี่ย์แทงออกมาให้เบลลามี่ทางซ้าย ก่อนจะเผาเครื่องแบ็คยูเออีกกระชากหนีมาดื้อๆแล้วปาดเข้าไปข้างในมีเคลฟเวอร์ลี่ย์วิ่งมาแปไปเสาไกลบอลชนเสาอย่างจัง ไม่พอเด้งมาโดนอีกเสาก่อนจะถูกเตะทิ้งไปอีก สุดท้ายก็จบไปที่พวกเขานำอยู่ 1-0 
ครึ่งหลัง 

ยังไม่สอง!สเตอร์ริดจ์ยิงติฟเซฟอีก 
กลับมาครึ่งหลังโอกาสของฝั่งบริเตนมาก่อนเลยจากจังหวะแรมซี่ย์เบียดริมเส้นกับแข้งยูเออีหลุดมาได้ก่อนจะไหลเข้าในเขตโทษให้สเตอร์ริดจ์แตะเข้าในอีกทีแล้วยิงแต่ยังโดนเซฟด้วยขา 

ยูเออีขอเถียง!คาลีลสวนมายิงชนเสาเหลี่ยมนอก 
ถัดมาไม่ถึงอึดใจยูเออีส่วนทีเกือบตีเสมอเหมือนกันเป็นลูกโต้กลับขึ้นมาแล้วแทงทะลุให้คาลีลใช้สปีดฉีกกองหลังไปรับบอลแล้วพาเข้าในเขตโทษแม้จะโดนบังแล้วแต่ก็เลือกสับไกเลย บอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมนอกออกหลัง 





































ตามเคย!ยูเออีทะลุทีเดียวเป็นประตู 
ทำดีมาตลอดแต่แล้วสหราชอาณาจักรเผลอแผล่บเดียวโดนตีเสมออีกแล้วในนาที 60 เป็นจังหวะที่.บอลจากริมเส้นจ่ายเข้ามาตรงกลางให้กับอีซ่าวิ่งมาแตะบอลแรกทีเดียวแหวกแนวรับเจ้าภาพเข้าเขตโทษไปเลยก่อนจะได้ยิงเน้นๆเสาแรกไม่เหลือ ยูเออีตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ 

เจ้าภาพอาการออกแล้ว 
ชักจะเหนื่อยแล้วสำหรับเจ้าภาพที่ตอนนี้รูปเกมเป๋ไปเลยเจอยูเออีกดดันไล่บอลกระจุนแถมยังมีลุ้นยิงอีกแล้วจากอีซ่าคนเดิมระยะ 20 กว่าหลาหน้าเขตโทษแต่บอลก็ติดแฉลบออกหลัง 

เกือบพลิกนำ!คาลิลหลุดมาจิ้มไม่ผานบัตแลนด์ 
นาที 69 ยูเออีมาเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วเกือบจะพลิกขึ้นนำเลยทีเดียวจากบอลทะลุช่องเข้าไปทางซ้ายให้กับคาลิลหลุึดไปจนถึงระยะกรอบหกหลาเลยก่อนจะได้จิ้มแต่ังติดเซฟบัตแลนด์ 

เจ้าภาพเฮ!ซินแคลร์สัมผัสแรกแปให้ขึ้นนำ 
แต่แล้วอีก 4 นาทีให้หลังเจ้าภาพก็โล่งใจได้ทันทีหลังกลับมานำอีกรอบจนได้เป็นบอลจากกลางสนามออกไปทางขวาให้เบลลามี่กระชากไปจนเกือบสุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้าไปตรงกลางเขตโทษให้สเตอร์ริดจ์โฉบไม่ถึง คาเซอีฟออกมาปัดแต่กลายเป็นร้ายเข้าทางซินแคลร์สัมผัสแรกแปบอลเข้าไปเลย สหราชอาณาจักรกลับมานำเป็น 2-1 

สบายแล้ว!สเตอร์ริดจ์ชิพเหนือBGนำห่าง 
คราวนี้ถอนหายใจได้เฮือกใหญ่ๆของจริงแล้วสำหรับบริเตนที่ได้อีกประตูต่อเนื่องทันทีเป็นจังหวะเคลฟเวอร์ลี่ย์ไปตัดบอลได้กลางสนามก่อนแทงทีเดียวให้กับสเตอร์ริดจ์สปีดแข่งไปกับสองแนวรับยูเออีเข้าเขตโทษก่อนจะชิพส่งบอลข้ามหัวคาเซอีฟเข้าไปแบบง่ายๆ สหราชอาณาจักรทิ้งห่างเป็น 3-1 

เจ้าภาพครองบอลปิดเกม 
ท้ายเกม 10 นาที่สุดท้ายก็ปิดเกมได้เลยยูเออีพยายามจะบุกขึ้นไปยิงแต่ก็ไม่ใกล้เคียงทำให้สหราชอาณาจักรชิวๆเคาะบอลไปมาไม่ต้องเร่งอะไรแต่ก็แอบได้ส่องไปด้วยทีจากอัลเลนยิงไกลหน้าเขตโทษแต่บอลก็หลุดกรอบออกหลัง 

จบเกมสหาราชอาณาจักรก็ทำสำเร็จเอาชนะยูเออีไปได้ 3-1 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปมี 4 แต้มเท่าเซเนกัลโอกาสในการเข้ารอบก็มากขึ้นขอเพียงแค่เสมอกับอุรุกวัยในเกมหน้าได้ก็จะผ่านเข้ารอบไปทันที 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สหราชอาณาจักร : แจ๊ค บัตแลนด์ 7, ไมกาห์ ริชาร์ด 6, เจมส์ ทอมกินส์ 5.5, สตีเฟ่น เคาล์เกอร์ 7, นีล เทย์เลอร์ 7, ไรอัน กิ๊กส์ 7 (ซินแคลร์ น.72, 7), โจ อัลเลน 7, อารอน แรมซี่ย์ 6.5, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 8, เคร็ก เบลลามี่ 8* (คอร์ค น.83), N/A, มาร์วิน ซอร์เดลล์ 5.5 (สเตอร์ริดจ์ น.45, 7) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เจสัน สตีล, ไรอัน เบอร์ทรานด์, แดนนี่ โรส, เคร็ก ดอว์สัน 

สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ : อาลี คาเซอีฟ 7, อาเหม็ด คาลีล, อับเดลาซิซ ซานคูร์ 6.5, โมฮัมเหม็ด อาห์หมัด 6, อัดดูลาซิซ ฮุสซาอิน 7(ซูรูร์ น.51, 6), ฮัมดาน อัล คามาลี่ 6, อาเมอร์ อับดูลราห์มัน 7.5, โอมาร์ อับดุลราห์มัน 7, คามิส เอสมาเอล 6.5 (ฟาร์ดาน น.79, N/A), ราสเฮด อีซ่า 7, อิสมาเอล มาตาร์ 7 (อาลี น.72, N/A) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาลิด อีซ่า, อาลี อาลามรี่, โมฮาเหม็ด ฟาวซี่, อิลมาอิล อัล ฮัมมาดี้