ขุนพลนักเตะทีมฟุตซอลมหาวิทยาลัยโลกไทยหักปากกาเซียน เขี่ยทิ้งเต็งแชมป์สเปนร่วงตกรอบไปแบบช็อคโลกหลัง เอกพงษ์ สุรัตน์สว่างเป็นฮีโร่ยิงประตูโทนในช่วงครึ่งหลังก่อนจะเป็นประตูชัย ที่ทำให้ทีมจากแดนสยามเขี่ยทีมสเปนร่วงตกรอบไปอย่างสุดเซอร์ไพรส์ โค้ชหมีรับเป็นแมตช์ที่นักเตะรวมถึงสต๊าฟทุกคนจะจดจำไปจนตาย ย้ำนัดต่อไปลูกทีมสู้ถวายหัว
การแข่งขันฟุตซอดลชิงแชมป์มหาวิทยาลัยโลกครั้งที่ 13 ที่เมืองบราก้า ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบจัดอันดับ 9-12 และการแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศซึ่งทีมมหาวิทยาลัยไทย อันดับ 2 ของกลุ่มดี ถูกไขว้ให้มาพบกับทีมเต็งหนึ่งอย่างสเปน อันดับ 1 ของกลุ่มบี แข่งขันเป็นคู่สุดท้ายของรอบนี้ที่ พีอีบี สปอร์ตส ฮอลล์ ทีมไทยนัดนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน สุกฤษฏิ์ โรจนเมธีทรัพย์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่ต้องพักยาวจากอาการเจ็บ ทำให้ รักษ์พล สายเนตรงาม ส่ง กวิน แซ่หลก, อนุวัฒน์ ปานนพภา, วรินทร์ รอมณี, เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง และเอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง ลงสนามเป็น 5 คนแรกในเกมนี้ ด้าน มานูเอล ลุยซิ คาราซโซ่ เฮดโค้ชของสเปนก็ส่งบรรดาแข้งดาวรุ่งจากฟุตซอลลีกสเปนลงสนามกันอย่างครบครับ 5 คนแรกที่ส่งลงสนาม เฟเดริโก้ การิกอส(ผู้รักษาประตู),ราฟาเอล อากีร่า, ราฟาเอล คาบัลโร่ และสองดาวเตะตัวรุกอนาคตไกล เคลาดิโอ บาเรียนนูโว หน้าเป้าจอมถล่อมประตู และ ปาโบล เดล มอโร่ ตัวริมเส้น
เขี่ยบอลเริ่มเกมนักเตะไทยใช้การวิ่งสู้ฟัดสู้กับเกมของสเปนได้อย่างน่าชม ไม่ปล่อยให้แข้งโต๊ะเล็กกระทิงดุได้มีโอกาสเซ็ทบอลเข้าไปในพื้นที่ทำประตูได้เลย ก่อนที่ น.14 วรินทร์ รอมณี กับ ฆาเวียร์ เซน่า จะรับใบเหลืองคนละใบจากจังหวะปะทะ ซึ่งทำให้ตัวรับจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะถูกแบนในนัดต่อไปทันที ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ต่างมีจังหวะทำประตูกันได้พอๆกันแต่สุดท้ายยังไม่มีทีมใดทำอะไรกันได้เสมอกันในครึ่งแรก 0-0
กลับมาแลกแข้งกันต่อ รูปเกมยังเป็นสเปนที่ได้ครองบอลบุก แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเกมรับของไทยที่วันนี้นักเตะช่วยกันวิ่งไล่แย่งบอล รวมถึงยืนคุมโซนได้อย่างยอเยี่ยม ก่อนจะมาปล่อยหมัดเด็ดใน น.25 จากจังหวะที่ออกบอลเร็วของ กวิน แซ่หลก ก่อนที่สุดท้ายบอลจะหลุดไปถึง เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง ทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนที่อดีตนักเตะทีมชาติไทยจะโซโล่พาบอลเข้าไปหวดด้วยซ้าย ส่งบอลไปนอนในตาข่ายพาทีมไทยพลิกขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังจากเสียประตูทีมหนุ่มนักศึกษาของสเปนก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตา หาจังหวะทำประตูกันต่อเนื่อง แต่ก็ไม่อาจจะเจาะเกมรับที่มีอาจารย์หมีเป็นผู้ปลุกเสกได้ และในช่วงท้ายเกมสเปนหันมาเล่นพาวเวอร์เพลย์เพื่อเน้นหนักหวังได้ประตูตีเสมอ แต่ก็ติดๆขัดๆในจังหวะสุดท้ายก่อนทีผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลาไปในที่สุด ทำให้ทีมมหาวิทยาลัยไทยสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะสเปนไปได้ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศชนิดที่นักเตะและสต๊าฟโค้ชกระโดดเฮลั่น พร้อมเสียงปรบมือจากกองเชียร์ที่เข้ามาชมเกมนัดนี้
หลังเกมโค้ชหมี รักษ์พล สายเนตรงาม กล่าวด้วยความดีใจเต็มที่ว่า “เกมนัดนี้จะเป็นนัดที่ผม,นักเตะ และทีมสต๊าฟทุกคนจดจำไปจนตาย เพราะทุกคนล้วนทำงานอย่างหนักก่อนที่ทีมจะมาถึงจุดนี้ ก่อนเกมผมได้คุยกับปูลปิส ซึ่งเขาบอกว่าทีมของเรามีศักยภาพจะเป็นผู้ชนะ ต้องเชื่อว่าเราชนะได้และเราก็ทำได้ ซึ่งทุกคนล้วนมีความสุขมาก เราคิดอยู่เสมอว่าเราเป็นแค่เพียงทีมเล็กๆ และมาแข่งขันปีแรก แต่ทุกคนนั้นมีจิตใจนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ สำหรับในเกมนัดต่อไปต้องขอแรงใจจากแฟนฟุตซอลไทยเชียร์ทีมของเราด้วย นักเตะและทีมงามทุกคนสู้ไม่ถอยแน่นอนครับ”
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ อาเซอร์ไบจาน แพ้ รัสเซีย 0-4, บราซิล แพ้ ยูเครน 1-3 และเจ้าภาพ โปรตุเกส ชนะ จีน 8-1 ทำให้ในรอบรองชนะเลิศที่จะแข่งขันกันในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ที่พีอีบี สปอร์ตส ฮอลล์ คู่แรก ไทย พบ รัสเซีย ส่วนอีกสนามที่มินโฮห์ยูนิเวอร์ซิตี้ สปอร์ตส ฮอลล์ โปรตุเกส พบ ยูเครน แข่งขันพร้อมกันเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น