หน้าเว็บ

12/8/55

อีวาฯแดง!เรือโดนก่อนรัวแซงสิงห์ 3-2 ประเดิมแชมป์แรก

อีวาฯแดง!เรือโดนก่อนรัวแซงสิงห์ 3-2 ประเดิมแชมป์แรก

เป็นเกมที่มีฉากพลิกชนิดที่ไม่ทันให้ได้ตั้งตัว เพราะเชลซีได้ประตูนำไปก่อนแต่อีวาโนวิชดันโดนใบแดงเพื่อนๆเลยน่วมถูกไล่ยิง 3 ลูกรวดแม้ว่าจะได้ตีตื้นในช่วงท้ายเกม แต่ไม่ทันกลายเป็นชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้ครั้งแรกในรอบ 40 ปี

ศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์

เชลซี 2 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : วิลล่า ปาร์ค

ประตู :
1-0 ตอร์เรส น.40, 1-1 ยาย่า ตูเร่ น.53, 1-2 เตเบซ น.59, 1-3 นาสรี่ น.65, 2-3 เบอร์ทรานด์ น.80

คลิปไฮไลท์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เชลซี 2-3 แมนซิตี้


เกมคอมมูนิตี้ ชิลด์หรือจะเรียกว่าโอกาสแห่งการได้เป็นแชมป์ถ้วยใบแรกก่อนประเดิมพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลใหม่เป็นการลุ้นกันระหว่างทีมแชมป์พรีเมียร์ ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และเชลซีเจ้าของถ้วยเอฟเอ คัพที่วันนี้พยายามจัดทัพที่ดีที่สุดของพวกเขาลงสนาม

เชลซีมีเทอร์รี่ยืนคุมแนวรับ พร้อมกับเพื่อนยากอย่างแลมพาร์ดที่เป็นตัวจริงในแดนกลางและด้วยการที่ฤดูกาลนี้ไม่มีดร็อกบาแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของตอร์เรสที่จะลงล่าตาข่ายในแดนหน้าให้กับทีม รวมทั้งอาซาร์ที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่ก็ได้เป็นตัวจริงกับเขาเหมือนกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้จัดเต็มในแนวรุก อยู่กับครบครันไม่ว่าจะเป็นอเกวโร่, เตเบซ, นาสรี่ รวมทั้งหัวใจสำคัญในการเคลื่อนเกมอย่างยาย่าที่ลงทีไรเกมตรงกลางของ "เรือใบ" หายห่วงได้เลย

ถึงอย่างนั้นแมนฯซิตี้ก็ไม่มีฮาร์ทที่เจ็บแผ่นหลังทำให้หมดสิทธิ์ลงเล่นและต้องใช้บริการของปันติลิมงแทน

ครึ่งแรก

เรือดูเสียวกว่าหน่อยๆ
ผ่าน 10 กว่านาทีแรกไป เกมถือว่ายังทันกันอยู่ แต่เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ดูจะวูบวาบน่ากลัวกว่าเวลาที่พวกเขาเซ็ตเกมรุกกันขึ้นไปข้างหน้า โดยเฉพาะการออกตัวของเตเบซและอเกวโร่ที่ต้องบอกเลยว่ากองหลังพลาดเมื่อไล่ก็เตรียมมองตูดได้ตามสบาย

ขอโวยนิด!นาสรี่เซ็งกุนจ่ายไม่ตรง
นาทีที่ 16 นึกว่าจะได้ง้างตีนอัดบอลแบบเต็มเหนี่ยวซะหน่อยสำหรับนาสรี่ที่ฉีกตัวเข้าไปในกรอบเขตโทษ หวังว่าอเกวโร่จะจ่ายไปที่ตัวให้เขาได้ชาร์จพลังยิง แต่หอกอาร์เจนไตน์กลับแทงบอลไปข้างหน้า ทำให้นาสรี่เสียจังหวะ แม้จะตามเข้าไปยิงได้แต่บอลมันไร้พิษสงเหลือเกิน

เจ็บ(อาย)มั้ยน่ะ!?อาซาร์ตอกส้นสะดุดขาตัวเองล้ม
ก่ะจะหล่อสักหน่อย แต่กลายเป็นเงิบเองซะงั้นเลยสำหรับอาซาร์ในจังหวะที่เขาพาบอลขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษของแมนฯซิตี้ เห็นเพื่อนเติมขึ้นด้านซ้ายเลยจัดการหลอกตัดเข้ากลาง แล้วสลับหวังตอกส้นจ่ายให้เพื่อนเล่นต่อไป แต่กดสูตรผิด ไปตอกโดนขาตัวเองสะดุดล้มหน้าคะมำ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและเฮแซวของแฟน "เรือใบ" ในสนาม

สิงห์เริ่มมีโอกาสมากขึ้น
ผ่านครึ่งชั่วโมงไป ตอนนี้เชลซีมีโอกาสที่จะทำเกมขึ้นไปกดดันกองหลังแมนฯซิตี้ได้บ้างแล้ว มีทั้งจังหวะยิงของแลมพาร์ดที่ติดเซฟของปันติลิมง รวมทั้งลูกยิงไกลหนักแน่นของอาซาร์ที่ยังไม่ผ่านมือของนายทวารมือสองของแมนฯซิตี้อยู่ดี

ข้ามาแล้ว!ตอร์เรสจิ้มสิงห์ได้เฮก่อนเฉย
นาทีที่ 40 แมนฯซิตี้มีเงิบเลย เพราะพวกเขากำลังกลับมาครองเกมได้อย่างใจคิด แต่ดันไปสกัดกันพลาดเคลียร์ไม่ขาด จนบอลไปอยู่ที่รามิเรส หลอกจะยิงนอกกรอบ ก่อนยึกแล้วแทงบอลจ่ายทะลุไปถึงตอร์เรสที่จิ้มบอลสวนปันติลิมงเข้าไปอย่างเฉียบขาด เชลซีขึ้นนำแล้ว 1-0

การกุศล!?อีวาฯเข้าดุโดนแดงเลยท่าน
อีก 2 นาทีต่อมา เกมมันพลิกชนิดที่แฟนบอลในสนามยังเคี้ยวฟิช แอนด์ ชิพในปากยังไม่หมด เชลซีก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คงจะเหนื่อยหนักในครึ่งหลังแน่ เมื่ออีวาโนวิชไปเข้าบอลโคตรดุใส่ผู้เล่นแมนฯซิตี้ ขาคู่ยันลอยแม้ว่าจะไม่สูงมาก แต่ดูแล้วอันตาย ผู้ตัดสินเลยควักใบแดงให้ทันที เชลซีแม้จะนำอยู่แต่เหลือ 10 คนแล้วในตอนนี้

จบ 45 นาทีแรก เกมนี้ยังอีกยาวนานนักสำหรับเชลซี เพราะแม้ว่าพวกเขาจะนำอยุ่ แต่คงต้องวิ่งกินตับแล่บในครึ่งหลังเพราะมีผู้เล่นน้อยกว่าและมันชินี่คงไม่พลาดที่จะฉวยโอกาสนี้ในการทำให้ลูกทีมได้เปรียบเป็นที่สุดอย่างแน่นอน

ครึ่งหลัง

แมนฯซิตี้มีการปรับทัพกันนิดหน่อยด้วยการถอดซาวิซซึ่งมีใบเหลืองติดอยู่แล้วออกไปและส่งกลิชี่ลงไปเล่นแทน ดูแล้วคงจะใช้จังหวะการเติมจากแนวรับลุยขึ้นไปสองข้างเลย

เช็กเลือดซิบ!ยาย่าซัดคมกริบส่งเรือเจ๊า
นาทีที่ 53 เป็นฮีโร่ของทีมไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนจริงๆสำหรับยาย่า เมื่อเขามาเป็นคนทำประตูตีเสมอได้ จากจังหวะที่เทอร์รี่สกัดออกมาไม่ขาด เข้าทางของอดีตแข้งบาร์เซโลน/า จัดการแต่งก่อนหนึ่งจังหวะแล้วซัดเน้นๆ ส่งบอลผ่านบล็อกสองตัว รวมถึงมือของเช็กเข้าไปเสียบเสาแรก เกมเสมอกัน 1-1 โมเมนตั้มเปลี่ยนไปทั้งหน้าแล้ว

เรียบร้อย!เตฟโชว์ตะบันเสียบสามเหลี่ยม
อีก 6 นาทีต่อมา ในที่สุดเกมก็พลิกสมบูรณ์แบบแล้ว เมื่อแมนฯซิตี้มาได้ประตูขึ้นนำ จากความยอดเยี่ยมของเตเบซที่แตะบอลหาจังหวะยิงหนีกองหลังของเชลซีไปได้ ก่อนที่จะหวดบอลติดไซด์พุ่งเสียบเข้าไปที่สามเหลี่ยม ชนิดที่เช็กได้แต่ยืนมองตาละห้อย แมนฯซิตี้นำ 2-1

สนุกกันเลยจ้ะ!นาสรี่จิ้มชาร์จเรือทิ้งเลย
นาทีที่ 65 กลายเป็นเกมขาดไปแล้วในตอนนี้ เพราะเชลซีตั้งขบวนกันไม่ทัน เลยเจอแมนฯซิตี้โหมเข้าใส่ ก่อนที่โคลารอฟจะเติมขึ้นไปเปิดจากทางข้าง นาสรี่พุ่งเข้าชาร์จแบบกังฟูนิดๆ แต่ก็ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่าย เป็นอีกครั้งที่เช็กหมดสิทธิ์รับ สกอร์ยาวไป 3-1 เหลือเวลาอีกเยอะซะด้วย

สิงห์ถอดอาซาร์ออกแล้ว
นาทีที่ 71 ถือว่าได้เจอของจริงกับชีวิตในการค้าแข้งบนเกาะอังกฤษไปเลยสำหรับอาซาร์วันนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่าเขาคงต้องปรับตัวอีกมากหากจะเปรี้ยงในพรีเมียร์ ลีกและถูกถอดออกไป โดยเชลซีส่งเบอร์ทรานด์ลงไปเล่นแทน

สิงห์ดูแล้วพลิกยากมาก
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เป็นงานที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเชลซีที่จะกลับมาในเกมนี้ เพราะแมนฯซิตี้เป็นฝ่ายครองบอลได้อยู่ตลอดและพวกเขาได้แค่ลงไปแพ็คเกมรับให้แน่นเท่านั้น เรื่องเกมรุกนี่แทบไม่ต้องพูดถึงเลยก็ว่าได้

เปลี่ยนโหดเหมือนเดิม!เรือจัดหน้าหนูลงแทนนาสรี่
จะตัวไหนก็โหดไม่แพ้กันจริงๆสำหรับแมนฯซิตี้ที่ถอดเอานาสรี่ผู้ทำประตูในเกมนี้ออกไปและส่งซิลบาลงไปเล่นแทน ดีกรีไม่ได้ต่างกันเลยสำหรับฝีเท้าของทั้งคู่

เอาเว้ย!ปันติลิมงพลาด-สิงห์ไล่มาแล้ว
นาทีที่ 80 ความผิดพลาดเกิดขึ้นทำให้เชลซีมีลุ้นที่จะยื้อต่อแล้ว เมื่อปันติลิมงไปรับลูกยิงไกลแบบเอื้อยๆของสเตอร์ริดจ์กระฉอกออกมา แถมยังลุกช้าเป็นเต่า เลยโดนเบอร์ทรานด์พุ่งเข้าชาร์จส่งบอลเข้าประตูไป เชลซีมีหวังขึ้นมา 3-2 แล้ว

จังหวะนี้เบอร์ทรานด์โดนใบเหลืองไปด้วย เพราะไปผลักอกปันติลิมงที่เล่นแง่ไม่ยอมคืนบอลให้ไปเล่นเร็วๆ รวมทั้งนายด่านของ "เรือใบ" ก็โดนด้วยเหมือนกัน

แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีการทำประตูกันได้เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่สุขสมหวังคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้ในรอบ 40 ปี ถือว่าเป็นการเปิดฤดูกาลที่ดีสำหรับพวกเขาเลย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

เชลซี :
 ปีเตอร์ เช็ก, แอชลี่ย์ โคล , จอห์น เทอร์รี่, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช , ดาบิด ลูอิซ, แฟรงค์ แลมพาร์ด , จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส , เอด็องน์ อาซาร์(เบอร์ทรานด์ น.71), เฟร์นานโด ตอร์เรส,ฆวน มาต้า(สเตอร์ริดจ์ น.74)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์นบูลล์, แกรี่ เคฮิลล์, มิคาเอล เอสเซียง, ราอูล เมเรเลส, ลูคัส เปียซอน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : คอสเทล ปันติลิมง, แวนซองต์ กอมปานี , ปาโบล ซาบาเลต้า, อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ, สเตฟาน ซาวิช  (กลิชี่ น.45), ไนเจล เดอ ยอง, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี่(ซิลบา น.77), ยาย่า ตูเร่, แซร์คิโอ อเกวโร่, คาร์ลอส เตเบซ(เชโก้ น.88)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อีริค โยฮานเซ่น, โคโล่ ตูเร่, อดัม จอห์นสัน, อับดุล ราซัค




 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
[/b] 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น