หน้าเว็บ

30/8/55

งานรัดตัว!“บังยี”แจงไม่เคลียร์ชิ่งหนีหน้าตาเฉย

งานรัดตัว!“บังยี”แจงไม่เคลียร์ชิ่งหนีหน้าตาเฉย

ที่ห้องประชุมรัฐสภา เมื่อวันพฤหัสฯที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา “บังยี”วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร์ หรือ กมธ. เรื่องการจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรและเงินค่าลิขสิทธิ์ที่รับจาก บมจ.สยามสปอร์ตฯ
arsenal pics
การชี้แจง กมธ. อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังซึ่ง“บังยี”ได้มอบหมายให้วีระ คำมีฝ่ายกฎหมายของสมาคมฯเป็นผู้ชี้แจง ปรากฏว่าศุภชัย ใจสมุทรส.ส.บัญชีรายชื่อโฆษกพรรคภูมิใจไทย ซักถามทุกข้อสงสัยอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยประเด็นสำคัญคือการสอบถามเรื่องการก่อตั้ง บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ว่ามีมติเห็นชอบจากสภากรรมการหรือไม่

โดยวีระ คำมีชี้แจงว่า “มี แต่ไม่ได้เตรียมเอกสารมาเพราะหนังสือที่ กมธ.แจ้งมาไม่มีเรื่องที่จะสอบถามในเรื่องนี้”

ศุภชัยถามต่อว่าขอตรวจเรื่องเงินรายรับรายจ่ายของสมาคมฯ

“บังยี”กล่าวว่า“สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯไม่ใช่สมาคมของรัฐ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้ตรวจสอบ”

ศุภชัยถามว่าสมาคมฯรับเงินอุดหนุนจาก กกท.ใช่หรือไม่

“บังยี”ตอบ“ใช่”

ศุภชัยถามว่าถ้าเช่นนั้นเงินจาก กกท.มาจากภาษีของประชาชนดังนั้นมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ

“บังยี”บอกว่า“ทาง กมธ.ปปช.ไม่ได้บอกให้ตนเองเตรียมการเรื่องนี้มา จึงขอให้มีการนัดหมายมาชี้แจงอีกครั้ง ก่อนจะบอกว่าตนเองมีนัดที่จะไปเป็นประธานในงานแถลงข่าวต่อในเวลา 11.30 น. ซึ่งเลยเวลานัดหมายมาครึ่งชั่วโมงแล้วโดยขอตัวออกจากที่ประชุมทันทีและให้ กมธ.ปปช. กำหนดหัวข้อที่จะซักถามมาให้ชัดเจนเพื่อการตอบคำถามที่ตรงประเด็น” 

หลังจากพูดจบ“บังยี”ได้เดินออกจากห้องประชุมทันทีและปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ ขณะที่ศุภชัย ใจสมุทรให้การเปิดเผยว่า “การชี้แจงในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะสมาคมฯจะได้รับรู้ว่าควรดำเนินการอย่างไร ซึ่งวันที่ 11 กันยายนนี้ หวังว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนทุกอย่าง”

นอกจากนั้นศุภชัยได้ให้การบ้าน“บังยี”จำนวน 3 ข้อได้แก่ 1.การจัดตั้งบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด มีการกำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นอย่างไร ใช้หลักเกณฑ์อย่างไร 2.เรื่องสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลฯทำไมถึงต้องเป็นสยามสปอร์ตเป็นผู้ดูแลเหตุผลใดถึงไม่ใช่บริษัทอื่น 3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ บริษัท แดอัน 21 จำกัด ประเทศเกาหลี ฟ้องร้องกรณีโอนเงินราว 30 ล้านบาทให้สมาคมฟุตบอลฯเพื่อเข้ามาเป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ตั้งแต่ปี 2550 แต่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ผิดสัญญา โดยมีการตรวจสอบงบดุลจากกรมสรรพากรแล้วไม่มีการแจ้งเรื่องเงิน 30 ล้านบาทเข้ามา เงินจำนวนดังกล่าวหายไปไหน ซึ่งในกรณีนี้ กรมสรรพากร ได้เรียกให้สมาคมฟุตบอลฯเข้าชี้แจงในวันที่ 11 ก.ย.ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น