หน้าเว็บ

25/8/55

RVP+คากาวะเปิดซิง!ผีเสียวเยี่ยวเล็ดเฉือนเจ้าสัว 3-2

RVP+คากาวะเปิดซิง!ผีเสียวเยี่ยวเล็ดเฉือนเจ้าสัว 3-2 

แม้ว่าจะบีบหัวใจกับแนวรับและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แฟนแมนฯยูไนเต็ดก็ยังยิ้มกันได้ เมื่อฟาน เพอร์ซี่ซัดประตูสุดสวยเปิดซิงแรกให้กับทีม เช่นเดียวกันกับคากาวะ ช่วยให้เฉือนเอาชนะฟูแล่มไป 3-2 แต่ต้องเสียรูนี่ย์ไปจากอาการบาดเจ็บช่วงทดเวลาซะนี่ 

พรีเมียร์ ลีก 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 2 ฟูแล่ม

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู :
0-1 ดัฟฟ์ น.3, 1-1 ฟาน เพอร์ซี่ น.10, 2-1 คากาวะ น.35, 3-1 ราฟาเอล น.41, 3-2 วิดิช(o.g.) น.64 

จัดหนักจัดจริงเลยสำหรับเฟอร์กูสันในเกมนี้ที่ส่งฟาน เพอร์ซี่ลงยืนหัวหอกเป้าคนเดียว พร้อมตัดสินใจดร็อปรูนี่ย์เป็นเพียงตัวสำรองที่ข้างสนามเท่านั้น 

คาร์ริคยังต้องยืนคู่กับวิดิชต่อไป ต้องดูว่าแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดจะดีขึ้นไปกว่าเกมนัดแรกที่เจอกับเอฟเวอร์ตันหรือไม่ 

มิดฟิลด์คู่กลางเป็นอันแดร์สันและเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่เคยจับคู่ชู้ชื่นเล่นกันสะแด่วเมื่อต้นฤดูกาลก่อนมาและดันคากาวะเป็นตัวปั้นเกมข้างหลังฟาน เพอร์ซี่ 

ครึ่งแรก 

....... ผีโดนแค่ 2 นาทีแรก 
ก่ะจะแก้มือโชว์จากเกมที่แล้ว แต่แนวรับของแมนฯยูนไตเ็ดก็ทำให้แฟนบอลอึ้งแดกทั่วสนาม เมื่อเสียฟรีคิก แล้วไปประกบกันไม่ดี ปล่อยให้ดัฟฟ์สลัดตัวประกบหลุด ก่อนจะวิ่งไปเข้าตำแหน่งแปบอลที่เพื่อนเปิดเลียดมาให้ผ่านมือเด เกอาเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผีช็อกโดนเร็วโคตร 1-0 เลย 

นี่โว้ยที่รอ!RVP เปิดซิงงามขนลุก 
นาทีที่ 10 ทำเอาแฟนบอลเฮลั่นกันสนามแทบแตกเลย เมื่อโรบิน ฟาน เพอร์ซี่โชว์จังหวะจบสกอร์ที่แมนฯยูไนเต็ดยอมทุ่มเงินซื้อตัวเขามาจากอาร์เซนอล จากลูกครอสด้านข้างของเพื่อนเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่แข้งดัตช์จะโฉบเข้าไปยิงตวัดตามน้ำ ส่งบอลครอสไปเสียบเสาไกลสุดปัญญาที่ชวาร์เซอร์จะเอื้อมถึง "ปีศาจแดง" เอาคืนทันควัน 1-1 

ลามะโชว์เสียวแต่เมพ 
ทำเอาแฟนบอลหัวใจเต้นแรงแต่สุดท้ายก็ทำได้สวย สำหรับเด เกอาในจังหวะที่เขาแตะบอลจะเตะขึ้นหน้า แต่มีผู้เล่นของฟูแล่มวิ่งเข้าบีบ เจ้าตัวเลยจัดการคลึงบอลกลับหลังแล้วแตะหนีก่อนจ่ายต่อให้เพื่อน เท่ขิงๆ 

เกมเป็นตึงๆใส่กัน 
กำลังจะเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมง เกมตอนนี้เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่ครองบอลได้มากกว่าอยู่สักหน่อย แต่จังหวะสวนกลับของฟูแล่มก็ไว้ใจไม่ได้ ถ้าหากว่าเจ้าบ้านได้แต่ครองแต่จบสกอร์ไม่ได้แบบนี้พูดได้เลยว่าต้องระวังเดี๋ยวได้ช็อกกันอีกดอกแน่ 

กรี๊ดต่อเนื่อง!คากาวะเอาบ้างยิงผีพลิก 
นาทีที่ 35 สองแข้งใหม่นัดกันเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลในสนามเลย เมื่อคากาวมาทำประตูได้จากจังหวะที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ส่องไกลแถวสอง ชวาร์เซอร์ปัดออกมาไม่พ้น ทำให้แข้งแดนปลาดิบตามซ้ำเข้าไปแบบง่ายๆ แมนฯยูไนเต็ดพลิกขึ้นนำ 2-1 แม้ว่าอาจจะต้องสังเกตกันอีกทีสำหรับจังหวะนี้ว่าเจ้าตัวยืนล้ำหน้าอยู่หรือไม่ 

อูวว์ ... คากาวะซัดเสา-ราฟาเอลล้ำ 
อีก 2 นาทีต่อมา นึกว่าจะพลิกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ในจังหวะที่คากาวะพลิกบอลหนีกองหลังของฟูแล่มจนสบช่องยิงด้วยอีซ้าย แต่บอลดันชนเสา แถมจังหวะที่ราฟาเอลตามซ้ำลูกยิงของยังก็ดันล้ำหน้าซธนี่ แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็นสัญญาณที่ฟูแล่มต้องระวังเอาไว้ให้มาก 

ทำไปได้!หยอยเติมโหม่งเฮเฉย 
นาทีที่ 41 ดูไซร์แล้วไม่น่าจะทำประตูด้วยการโหม่งได้ แต่สุดท้ายก็ได้เฮสำหรับราฟาเอล ในจังหวะเติมสูงขึ้นไปรอเสาสอง ยังตักบอลโด่งอย่างสวยไปให้ น้องหยอยศักดิ์เลยเทคตัวขึ้นโขกเน้นๆ แม้ชวาร์เซอร์จะปัดได้ แต่นั่นก็สายเกินไปแล้ว แมนฯยูไนเต็ดพลิกโหด 3-1 

กราบตีนลามะ!เซฟสองทีติดผีรอดหวุดหวิด 
อีก 2 นาทีต่อมา ไอ้แบบนี้มันเสียแน่ๆอยู่แล้ว แต่แมนฯยูไนเต็ดรอดหหน้าตาเฉยในจังหวะที่เปตริซพยายามจะตีลังกาแต่ไม่ดโน เพื่อนเลยตามเข้ายิงดาบสอง เด เกอาดีดตัวปัดเอาไว้ได้ ก่อนที่เปตริซจะลุกขึ้นมาแปแบบเน้นๆจ่อๆอีก เด เกอาก็ยังใช้ขาบล็อกเอาไว้จนบอลเด้งไปชนคาน ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันเคลียร์บอลทิ้งออกหลังไป 

ครึ่งหลัง 

หยอยคึกไปนิดตัดจังหวะพี่หนุ่ม 
นาทีที่ 58 จังหวะนี้ว่ากันจริงๆน่าจะปล่อยให้ยังเป็นคนแรก เพราะลูกเปิดที่ฟาน เพอร์ซี่ตักยาวมาให้นั้นน้ำหนักมันน่ารักเหลือเกิน แต่ราฟาเอลคึกเต็มพิกัดเติมขึ้นไปชิงจังหวะโหม่งก่อน บอลเลยหลุดกรอบออกไป ถ้าให้ยังคงได้อัดเน้นๆเป็นแน่ 

ช็อก ... ลามะอ่านผิดวิดิชยิงตัวเองเลย 
นาทีที่ 65 เป็นจังหวะที่พลาดโดยแท้สำหรับเด เกอาที่อ่านระยะของลูกครอสทางฟูแล่มผิด จะออกไปตัดบอลแต่ไม่ถึงฝั่งฝัน เลยทำให้เบียดกระแทกกับผู้เล่นฟูแล่ม ก่อนบอลจะไปแฉลบขาวิดิชเด้งเข้าหน้าประตูที่ไม่มีใครเฝ้าอยู่ไป ฟูแล่มตามมาแล้ว 3-2 ระทึกๆ 

ผีอยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนหน่อย 
นาทีที่ 68 แมนฯยูไนเต็ดต้องมีการปรับเปลี่ยนกันบ้าง เพราะตอนนี้โมเมนตั้มมันชักจะเข้าไปหาฟูแล่ม ด้วยการถอดคากาวะและยัง ก่อนส่งสองหัวหอกรูนี่ย์และเวลเบ็คลงไปเล่นแทน 

หลังผีจะไหวไหม 
อีก 2 นาทีต่อมา ไม่รู้จะโดนตีเสมอเมื่อไหร่สำหรับกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดที่ปล่อยให้ฟูแล่มบุกเข้ากดดันอย่างหนัก ถึงกรอบเขตโทษแล้วมีโอกาสซัดจ่อๆจากระยะแค่ไม่กี่หลา ยังดีที่บอลไม่ห่างตัวของเด เกอาซึ่งยืนแขนปัดเอาไว้ได้ทัน 

ผีมีโวยขอเหลืองสองฮังเกลันด์ 
นาทีที่ 75 ผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดขอโวยนิดหนึงจากจังหวะที่ฮังเกลันด์ไปเสียบฟาน เพอร์ซี่จากด้านหลัง ซึ่งเขามีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว แต่ผู้ตัดสินยังใจดีเตือนประมาณว่ามีอีกครั้งคราวนี้แดงแน่ 

มันน่านัก!หยอยซัดเต็มตีนติดเซฟ 
อีก 2 นาทีต่อมา เห็นแล้วอยากให้เป็นประตูจริงๆสำหรับจังหวะอัดนอกกรอบเต็มข้อของราฟาเอลที่เติมขึ้นไปรองบอลลูกฟรีคิกของรูนี่ย์ บอลพุ่งแรงโคตรแถมยังฮุคปลาย แต่ชวาร์เซอร์ยังเด็ดปัดทิ้งข้ามคานไปได้ 

เกมบีบหัวใจ 
จังหวะนี้ใครพลาดขึ้นมาเกมอาจตัดสินได้ทันที เพราะเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแล้วและโอกาสก็พร้อมที่จะมีขึ้นทุกเมื่อไม่ว่าจะกับทางฝ่ายใดก็ตาม 

หมูได้เลือดโดนสตั๊ดย่ำแผลโคตรน่ากลัว 
เป็นการเบรคจังหวะที่เสียวๆโดนฟูแล่มลุ้นประตูอยู่เลยสำหรับรูนี่ย์ที่ไปเข้าบล็อกลูกยิงของโรดาลเญก้าแล้วโดนสตั๊ดอดีตแข้งวีแกนจิ้มลงที่ขาในจังหวะวางเท้าพอดี ดูแล้วคงไม่ได้ตั้งใจ แต่เจ็บปวดแทน เพราะเลือดไหลออกมาเป็นทาง แถมเนื้อจะเปิดฉีกออกไปอีกต่างหาก จนสุดท้ายต้องโดนหามขึ้นเปลออกไปนอกสนาม 

จบเกมแมนฯยูไนเต็ดเอาตัวรอดเก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลได้ด้วยสกอร์ 3-2 ถึงอย่างนั้นดูแล้วก็ปวดหัวงแทนทีมงานและแฟนๆ เพราะแนวรับหลวมอย่างแรง วันไหนเด เกอาผีออกขึ้นมาล่ะยุ่งแน่ 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
 ดาบิด เด เกอา 7.5, เนมันย่า วิดิช * 5, ไมเคิ่ล คาร์ริค 6, ปาทริซ เอฟร่า 7, ราฟาเอล  7, อันแดร์สัน 6(กิ๊กส์ - น.81), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 7.5, แอชลี่ย์ ยัง 7.5(เวลเบ็ค 6.5 น.68), อันโตนิโอ วาเลนเซีย 6.5, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  7.5, ชินจิ คากาวะ  8.5*(รูนี่ย์ 6.5 น.68) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : พอล สโคลส์, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, โจนาธาน อีแวนส์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ 6, เบรดเด้ ฮังเกลันด์  6.5, แอร่อน ฮิวจ์ส 6.5, แมทธิว บริกส์ 6, ซาช่า รีเธอร์ 6, มุสซ่า เด็มเบเล่ 7.5, มาฮามาดู ดิยาร์ร่า 4(เบียร์ด 6 น.82), อเล็ซานเดอร์ คากานิคลิก 6.5(ซิดเวลล์ 6.5 น.62), เดเมี่ยน ดัฟฟ์  7, มลาเด้น เปทริช 6.5(โรดาลเญก้า 6.5 น.73), ไบรอัน รุยซ์ 6.5 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เดวิด สต็อคเดล, ราฟิค ฮาลิเช, สตีเฟ่น เคลลี่, ปาจทิม คาซามี่ 






 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น