หน้าเว็บ

15/8/55

ซาไกตีนหนัก!ยิงทะลุทะลวงสิงโตพลิกซิวเลี่ยน 2-1

ซาไกตีนหนัก!ยิงทะลุทะลวงสิงโตพลิกซิวเลี่ยน 2-1

เป็นกองหน้าตัวสำรองที่ลงแล้วไว้ใจได้จริงเชียวสำหรับเดโฟที่ทำหน้าที่ซูเปอร์ซับทำประตูชัยด้วยลูกยิงทรงพลังในครึ่งหลัง ช่วยให้อังกฤษพลิกเอาชนะอิตาลีที่นำตั้งแต่ 15 นาทีแรกไปก่อนได้ 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องที่ได้เห็นดาวรุ่งวิ่งกันเต็มสนาม

เกมอุ่นเครื่องระดับนานาชาติ

อังกฤษ 2 - 1 อิตาลี

สนาม : สตาด เดอ ซุสเซ่ แวงดร็อฟ

ประตู :
0-1 เด รอสซี่ น.15, 1-1 จาเกียลก้า น.27, 2-1 เดโฟ น.79

คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรทีมชาติ อังกฤษ 2-1 อิตาลี


เกมนี้อังกฤษส่งตัวบัตแลนด์นายด่านวัยเพียง 19 ปีลงเล่นในนามทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการทำลายสถิติที่มีผู้รักษาประตูวัยละอ่อนสุดที่ลงเล่นให้แก่ทีมด้วย

ฮอดจ์สันเลือกส่งแคร์โรลล์ลงเล่นยืนเป้าในแดนหน้า โดยมีเคลฟเวอร์ลี่ย์คอยป้วนเปี้ยนขยับลงมาต่ำกว่าหน่อยและมีตัวด้านข้างอย่างจอห์นสันและยัง

อิตาลีวางอควิลานี่เป็นตัวปั้นเกมในแดนกลางคู่กับเด รอสซี่ ในขณะที่แดนหน้าก็เลือกใช้เดสโตรดาวรุ่งที่เกือบจะติดทีมชุดไปลุยยูโร เนื่องจากบาโลเตลลี่ถอนตัวไปก่อนหน้านี้

ครึ่งแรก

รวดเร็วไปเลย!เลี่ยนเฉียบกว่าชิงนำก่อน
นาทีที่ 15 ของเกม ไม่ว่าจะทีมชุดไหนก็ยังคงต้องวัดกันที่ความเด็ดขาดอยู่ดี แม้ว่าอังกฤษจะเล่นได้ดูดีในช่วงต้นเกม แต่จากการที่มีโอกาสแล้วจบไม่ได้ ทำให้อิตาลีมาทำประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่เดียมานติเปิดเตะมุมไปเหลื่อมเสาแรกหน่อย คาร์ริคตามประกบเด รอสซี่ไม่ดีเลยเจอแข้งจากโรม่าเทคตัวขึ้นโขก แม้จะไม่แรง แต่น้ำหนักมันสุดเป๊ะ ลอยข้ามมือของบัตแลนด์ที่บินสุดตัวแล้วแต่ก็ไม่ถึงเสียบคานเข้าไปกระแซะตาข่าย อิตาลีนำ 1-0

AJ อย่างน้อยก็ได้จบ
อีก 3 นาทีต่อมา ก็ถือว่าเป็นโอกาสทำเกมบุกแล้วจบลงที่การยิงประตู สำหรับอังกฤษในจังหวะที่แลมพาร์ดพยายามยิงไกลแต่ติดบล็อกก็เลยจ่ายต่อออกไปให้กับจอห์นสันที่ล็อคแตะเข้าในแล้วซัดด้วยซ้าย แต่หลักไม่ดี บอลเลยพุ่งเข้าซองของซิริกูแบบไร้ปัญหา

เปิดซิง!เจ๊เกียวพุ่งโหม่งตีเจ๊า
นาทีที่ 27 ขอโหม่งทำประตูคืนบ้างเลยสำหรับอังกฤษ เมื่อจาเกียลก้าเปิดซิงตัวเองในนามทีมชาติ จัดการพุ่งกึ่งๆตอร์ปิโดเข้าโหม่งบอลที่แลมพาร์ดเปิดเตะมุมมา ส่งบอลเข้าไปซุกเสาสองที่ไม่มีคนยืนคุม เกมกลับมาเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 1-1

เลี่ยนเป็นฝ่ายได้บุกอยู่
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย โอกาสตอนนี้เป็นของอิตาลีที่ทำเกมรุกขึ้นไปถึงช่วง 30-35 หลาหน้าประตูแล้วจังหวะดูวูบวาบน่าลุ้นกว่าทางอังกฤษ ถ้ากองหลังผู้ดีพลาดเมื่อไหร่อาจต้องตกเป็นฝ่ายตามอีกครั้งก็ได้

บัตแลนด์เพลย์เซฟมาก
นาทีที่ 40 เป็นจังหวะหวาดเสียวพอสมควรกับช็อตที่อิตาลีบุกเข้าใส่แนวรับของอังกฤษ ก่อนจะหยอดเข้าไปในเขตโทษ กึ่งกลางระหว่างผู้รักษาประตูและกองหลัง จนทำให้บัตแลนด์ผวาไม่กล้าใช้มือปัด แต่ก็ไม่กล้าปล่อยบอลให้เด้งผ่านหน้าไปเฉยๆ เลยจัดการยื่นขาสกัดแม่มเลย สุดท้ายผลก็ถือว่าออกมาดีอยู่

จบ 45 นาทีแรก พร้อมความหงุดหงิดของฮอดจ์สันที่ดูลูกทีมเล่นไม่ได้ดั่งใจ เกมเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ต้องดูว่าในอีก 45 นาทีที่เหลือจะเป็นอย่างไร

ครึ่งหลัง

ครึ่งหลังมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น โดยอังกฤษถอดเอาบัตแลนด์กับแคร์โรลล์ออก ก่อนส่งรัดดี้และเดโฟลงสนาม ขณะเดียวกันอิตาลีก็ให้เปลลูโซ่ลงเล่นแทนบาลซาเล็ตติ

เยี่ยมทั้งสอง!เดสโตรตวัดยิงติดเซฟ
นาทีที่ 55 เป็นจังหวะที่ต้องชมทั้งคนยิงคนเซฟเลย เมื่อเดสโตรได้บอลในเขตโทษ แม้ว่าเหลี่ยมจะไม่ค่อยได้ แต่เขาก็พลิกตัวตวัดยิงหักไปที่เสาแรกผ่านบล็อกไปได้แล้ว แต่ไม่ผ่านมือของรัดดี้ที่ล้มตัวเร็วเหลือเกิน ปัดเอาไว้ได้ด้วยมือด้วย ยอดมาก

ต่างฝ่ายต่างเปลี่ยนคู่
นาทีที่ 61 เปลี่ยนคู่แทบจะพร้อมกันเลยสำหรับทั้งสองฝ่าย เมื่ออิตาลีถอดเอาเอล ชาราวี่และเดียมานติออก พร้อมส่งแก๊บเบียดินี่กับเบอร์รัตติลงสนาม ส่วนอังกฤษส่งเลสค็อตต์กับมิลเนอร์ลงเล่นแทนผู้ทำประตูอย่างจาเกียลก้าและยังที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก

เคฮิลล์ยิงอย่างกับกองหน้าแต่ไม่ได้
อีก 6 นาทีต่อมา ถ้าไม่ติดว่าฟาวล์ไปก่อนล่ะก็สวยน่าดูเหมือนกัน กับจังหวะยิงวอลเล่ย์เต็มเท้าของเคฮิลล์ที่ซัดบอลซึ่งเพื่อนเตะมุมมาผ่านทุกบล็อกเข้าไปอัดตาข่ายได้ แต่ผู้ตัดสินบอกว่ามีการผลักกันก่อนหน้านี้นิดหนึง

เซฟโฮก!เลี่ยนเกือบยิงตัวเอง
นาทีที่ 73 หวิดจะยิงประตูตัวเองไปซะแล้วสำหรับเปลรูโซ่ที่พยายามจะชิงแตะบอลให้ได้ก่อนผู้เล่นของอังกฤษในเขตโทษของตัวเอง จนกลายเป็นไปแปบอลพุ่งเข้าหาประตูตัวเอง ยังดีที่ซิริกูโคตรไวดีดตัวควักกะปิออกมาได้ทัน เป็นช๊อตซูเปอร์เซฟกันไป ก่อนจะมีการเคลียร์ทิ้งไว้ได้

สิงโตเกมดีกว่าบ้าง
หลังจากเปลี่ยนไปหลายตัว ทำให้เกมของอิตาลีเหมือนจะติดๆขัดๆดูแล้วไม่ค่อยลื่นไหล กลายเป็นทางอังกฤษที่ทำเกมกันได้ดีกว่าจนมีโอกาสกดดันอยู่เรื่อยๆ ก่อนจะมีการเปลี่ยนเอาเบอร์ทรานด์ลงไปเล่นแทนเบนส์

นานๆทีแต่เซฟเหนื่อยสำหรับรัดดี้
นาทีที่ 78 แม้ว่าเกมจะหนืดลงไปแต่อิตาลีก็ยังรุกได้น่ากลัวเหมือนเดิม เริ่มจากจังหวะที่ยิงเน้นๆให้รัดดี้ต้องเซฟปัดทิ้งข้ามคานออกไป ก่อนที่ต่อเนื่องจะมีการเตะมุมให้เพื่อนได้โขก คราวนี้เป็นเบอร์ทรานด์ที่ยืนคุมเส้นโขกสกัดทิ้งเอาไว้ได้

สุดตีน!ซาไกระเบิดพลังซัดเสียบเสาไกล
จังหวะต่อเนื่องกันไปเลย เมื่ออังกฤษทำเกมสวนกลับขึ้นมา เดโฟทำทางวิ่งรับบอลจากเพื่อน แม้จังหวะแรกจะโดนบล็อกอยู่ แต่หัวหอกซาไกก็พลิกตัวหาช่อง ก่อนจะตะบันเต็มตีนด้วยขวา บอลพุ่งเป็นจรวดแม้จะติดปลายมือของซิริกู แต่ก็เอาไม่อยู่ พุ่งเข้าไปเสียบเสาสุดสวย อังกฤษพลิกขึ้นนำ 2-1

แม้ว่าช่วงเวลาที่เหลืออิตาลีจะพยายามเดินเกมรุกเพื่อไม่ให้แพ้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการทำประตูเพิ่มเติม ทำให้อังกฤษเป็นฝ่ายล้างตาแบบเล็กๆหลังศึกยูโร 2012 ด้วยการพลิกเอาชนะอิตาลีไป 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องที่มาเตะกันก่อนเปิดฤดูกาลแค่ไม่กี่วัน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

อังกฤษ :
 แจ็ค บัตแลนด์(รัดดี้ น.45), ฟีล จาเกียลก้า  (เลสค็อตต์ น.62), แกรี่ เคฮิลล์, เลจ์ตัน เบนส์(เบอร์ทรานด์ น.78), ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟรงค์ แลมพาร์ด(ลิเวอร์มอร์ น.69), ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง(มิลเนอร์ น.62), อดัม จอห์นสัน, แอนดรูว์ แคร์โรลล์(เดโฟ  น.45), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แจ็ค ร็อดเวลล์, สตีเว่น คอลเกอร์

อิตาลี : ซัลวาโตเร่ ซิริกู, อังเกโล่ อ๊อกบอนน่า, ดาวิเด้ แอสโตรี่, เฟเดริโก้ บาลซาเร็ตติ(เปลูโซ่ น.45), อิ๊กนาซิโอ อาบาเต้(เชล็อตโต้ น.86), อัลแบร์โต้ อควิลานี่(โพลี่ น.68), อเลสซานโดร เดียมานติ(เบอร์รัตติ น.59), ดานิเอเล่ เด รอสซี่ , อันโตนิโอ โนเชริโน่, มัตติอา เดสโตร(แฟบบรินี่  น.82), สเตฟาน อัล ชาราวี่(แก๊บเบียดินี่ น.59)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดานิเอเล่ กาสตาลเดลโล่, อังเดรีย คอนซิญี่, มัตติอา เปริน, ฟรานเซสโก้ อเซอร์บี, มัตติอา เด ซิญีโอ 




 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น