ซามูไรก้องโลก!ฟันมัมมี่ 10 ตัวผ้ากระจุย 3-0 ผงาดรอบรอง
เป็นชัยชนะด้วยสกอร์สุดหรูจริงๆสำหรับทีมชาติญี่ปุ่น เมื่อพวกเขาโชว์ทั้งการจบสกอร์สุดเฉียบและเกมรับสุดแน่นหนาเอาชนะอียิปต์ที่เหลือผู้เล่น 10 ตัวตั้งแต่ท้ายครึ่งหลังไปด้วยสกอร์ขาดลอย 3-0 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศไปเลย
โอลิมปิค 2012 ฟุตบอลชาย รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ญี่ปุ่น 3 - 0 อียิปต์
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู :1-0 นากาอิ น.14, 2-0 โยชิดะ น.78, 3-0 โอซุ น.83
คลิปไฮไลท์ โอลิมปิก 2012 ญี่ปุ่น 3-0 อียิปต์
ญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นของการแข่งขันโอลิมปิคในครั้งนี้ หลังจากพวกเขาคว้าแชมป์กลุ่ม ดี แถมยังมีส่วนสำคัญในการเขี่ยให้เต็งแชมป์อย่างสเปนตกรอบแบ่งกลุ่มไปก่อนใครเพื่อน
ด้านอียิปต์เองแม้ว่าจะดูไม่เปรี้ยงเหมือนอย่างทีมแดนปลาดิบ แต่พวกเขาก็คว้าอันดับที่ 2 ในกลุ่มที่มีทีมสุดหินอย่างบราซิลอยู่นั่นเอง
ครึ่งแรก
แค่ 8 นาทีแรกเท่านั้น ญี่ปุ่นก็โชว์จังหวะการจ่ายทะลุช่องจนทำให้มีตัวหลุดขึ้นไปทางด้านซ้าย พร้อมให้ไดซูเกะได้วิ่งเข้าชาร์จที่หน้าประตูเต็มๆ แต่เป็นเฮกาซี่ที่พุ่งตัวเข้าสไลด์บอลข้ามคานเอาไว้ได้ก่อน ไม่งั้นมีเฮแน่นอน
นาทีที่ 13 ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่าในอนาคต แต่ยังไงก็ต้องเฮเอาไว้ก่อน เมื่ออียิปต์มัวแต่ไปเลี้ยงหน้าประตูตัวเอง จนทำให้โดนฮิโยทาเกะฉกบอลไป ก่อนจะครอสยาวเข้ากลางสวยเว่อร์ให้กับนากาอิพุ่งเข้าโฉบถึงบอลก่อนผู้รักษาประตูที่ชนกับกองหลังเข้าอย่างจัง แล้วตวัดยิงเข้าไปตุงตาข่าย ญี่ปุ่นขึ้นนำ 1-0 แต่เขาก็ต้องแลกกับอาการบาดเจ็บทำให้โดนหามออกจากสนาม เพราะโดนผู้เล่นของอียิปต์ปะทะเต็มๆในจังหวะที่ยิง
ผ่าน 20 กว่านาทีแรกไป นากาอิลองลงมาในสนามอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จึงต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป ส่วนเกมในสนามก็ยังไม่ได้ต่างอะไรมาก แม้ว่าญี่ปุ่นจะเริ่มต้นได้ดี แต่เล่นไปเล่นมาดูเหมือนว่าไอเดียจะตันไปเหมือนกันเวลาที่เซ็ตบอลขึ้นไปข้างหน้า ขณะที่อียิปต์ก็ค่อยๆเล่นไปเรื่อยๆ คอยหาจังหวะโจมตีอยู่แบบไม่ให้คลาดสายตา
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้กระแสของเกมเทไปที่อียิปต์แบบเต็มๆ เพราะหลังจากญี่ปุ่นทำประตูขึ้นนำได้ พวกเขาก็แทบจะไม่ได้ครองบอลเลย ส่วนมากจะเน้นลงไปยืนกันแน่นไม่ให้อียิปต์หาช่องเจาะเข้าไปทำประตูได้
แต่แล้วในนาทีที่ 41 ดูเหมือนเกมของอียิปต์ที่กำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆคงไปไม่ได้มากกว่านี้ เมื่อซาด ซาเมียร์ดันไปโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในจังหวะที่ญี่ปุ่นกำลังจะแตะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเขาไปจิ้มสกัดจากด้านข้าง ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามแบบไม่มีรีรอ อียิปต์เหลือเพียงแค่ 10 คนเท่านั้นในตอนนี้
จบครึ่งแรก ญี่ปุ่นได้เปรียบสุดๆไปเลย เพราะนอกจากพวกเขาจะมีประตูนำอยู่ 1-0 ยังมีผู้เล่นมากกว่าอีกหนึ่งคนก่อนที่จะลงมาเล่นอีก 45 นาทีในครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง
ลงมาในครึ่งหลังตอนนี้เกมออกแนวกึ่งๆนิดหน่อย ผลัดกันรุกรับ เพราะจากช่วงกลางครึ่งแรกที่อียิปต์ได้ครองบอลเยอะ แต่พอเสียผู้เล่นไปหนึ่งคนก็ทำให้ตอนนี้เกมของญี่ปุ่นที่ดูตันไปขยับกันได้คล่องขึ้น
ญี่ปุ่นแม้ว่าจะมีผู้เล่นมากกว่า แต่ด้วยการที่วันนี้เกมของพวกเขาเหมือนว่าจะวางกันมาในเรื่องของการเล่นอย่างเป็นระเบียบระบบมากกว่าการบุกเข้าทำ ให้ทำให้พวกเขาครองบอลแบบนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้กดดันอะไรมากมายนัก
เข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย แม้ว่าอียิปต์จะลองพยายามเร่งเครื่องครองบอลขึ้นไปบุกใส่ญี่ปุ่นบ้าง แต่ด้วยการที่พวกเขามีตัวผู้เล่นน้อยกว่า ทำให้พื้นที่โดนคลุมเอาไว้ได้หมด ไม่ว่าจะลองหันไปทางไหนก็ตาม
นาทีที่ 78 ในที่สุดเกมก็น่าจะจบลงแล้เลย เมื่อญี่ปุ่นมาได้ประตูขึ้นนำห่าง 2-0 จากลูกฟรีคิกที่พวกเขาได้เปิดเข้ามาจากด้านข้าง เป็นโยชิดะกัปตันทีมพุ่งเข้าสะบัดหัวโหม่งไปแฉลบกองหลังเข้าประตูชนิดที่เชนาวี่ได้แต่มองตาปริบๆ เกมห่างกันแล้วในตอนนี้
นาทีที่ 83 ญี่ปุ่นมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะของพวกเขาในเกมนี้ หลังจากได้บุกขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนที่จะโยนบอลเข้ากลางประตู แม้ว่าจะมีเซ็นเตอร์ยืนคุมสองตัว แต่โอซุก็ยังโฉบเข้าไปขวิดโหม่งบอลเต็มใบเข้าไปตุงตาข่าย
จบเกมญี่ปุ่นคว้าชัยชนะเหนืออียิปต์ไปด้วยสกอร์ที่สวยหรูสุดๆ 3-0 เข้าไปนั่งกระดิกเท้ารอในรอบรองชนะเลิศ ลุ้นว่าจะได้เจอกับใครระหว่างเม็กซิโกกับเซเนกัล
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ญี่ปุ่น : ชูจิ กอนดะ, มายะ โยชิดะ, ไดซูเกะ ซูซูกิ, ฮิโรกิ ซากาอิ, ยูเฮล โทกูนากะ, ฮิโรชิ คิโยทาเกะ(อูซามิ น.84), เคอิโกะ ฮิกาชิ(ซากาอิ น.71), โฮทารุ ยามากูชิ, ทากาฮิโระ โอกิฮาร่า, ยูกิ โอซุ, เคนซุเกะ นากาอิ(ไซโตะ น.20)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : ชุนซูเกะ อันโดะ, คาซูยะ ยามามูระ, ไทซูเกะ มูรามัตซุ, เคนยุ ซูกิโมโตะ
อียิปต์ : อาห์เมด เอล เชนาวี่, อาห์เมด เฮกาซี่, อาห์เมด ฟาธี, เอสลาม รามาดาน, ซาด ซาเมียร์, ชีแฮป อาห์เมด(เอลดิน น.45), โมฮาเมด เอล เนนี่, ฮอสซัม ฮาสซาน, โมฮาเมด อบูทริก้า, อีแมด โมทีบ(โมห์เซน น.74), โมฮาเมด ซาลาห์(กาเบอร์ น.58)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : โมฮาเมด บาสซัม, โอมาร์ อลี, ซาเลห์ โกมา, อาห์เมด แม็กดี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น